[HOW TO] แต่งหน้าพบปะเพื่อนสาว (เป็นลุคประจำวันก็ได้ด้วย!)

oo-oo

สวัสดีค่ะสาวๆบิวตี้มีทส์♥ กลับมาอีกครั้งกับ #HOWTO ซึ่งครั้งนี้จะเป็นฮาวทูที่ง่ายมาก (ขอเน้นว่ามากกกก) เพราะเป็นการแต่งหน้าเบาๆ แต่สามารถไปแฮงค์เอาท์กับเพื่อนสาวได้สวยๆ หรือจะแต่งไปเรียนหรือทำงานก็ได้หมด พ้อยท์ของลุคนี้อยู่ที่การเลือกสีให้ดูหวานๆเบาๆ แต่ก็มีเสน่ห์ งั้นเราไปดูกันเลยไหมจ๊ะ?

♥เครื่องสำอางที่ใช้ในลุคนี้♥

รองพื้นแบบคุชชั่น HERA UV MIST CUSHION SPF50+/PA+++ C21
อายแชโดว์ ARITAUM Shine Fix Eyes No.35
มาสคาร่า BOURJOIS mascara Elastic N0.42 BROWN
ดินสอเขียนคิ้ว INNISFREE BROW MASTER PENCIL No.1
ลิปสติก SKINFOOD Candy Moist Rouge No.21

มาเริ่มกันเลย!! ♥♥

00

หลังจากลงครีมบำรุงผิวแล้ว ก็มาเริ่มด้วยการลงรองพื้นเพื่องานผิวที่สวยมีออร่า

01

จากนั้นลงอายแชโดว์สีน้ำตาลเหลือบม่วงประกายเพชรลงบนเปลือกตา

02

อย่าลืมลงใต้ตาด้วยนะคะ ลงเบาๆ พอ

03

ดัดขนตากันเลยจ้า

04

จากนั้นตามด้วยการปัดมาสคาร่า

05

เขียนคิ้วตามทรงปกติที่เขียนเป็นประจำ แต่ถ้าจะให้เป็นสไตล์เกาหลีก็ต้องวาดตรงๆ บางๆ หน่อยค่ะ

จุ

ทาลิปด้านในริมฝีปาก แล้วใช้นิ้วเกลี่ยเพื่อให้ได้ลุคปากไล่สี

และแล้วเราก็จะได้ลุคใสๆง่ายๆ ไว้แต่งไปพบปะเพื่อนสาว หรือจะแต่งเป็นลุคประจำวันก็ได้นะคะ♥

06

07

ขอบคุณข้อมูลจากช่างแต่งหน้าเกาหลี HAKONYANG ลองเข้าไปดูช่องยูทูปได้ เพราะทุกลุคสวยจริงๆค่ะ

แล้วก็ ถ้าอยากดูฮาวทูแบบคลิป ก็คลิ๊กเข้าไปดูลิ้งค์นี้ได้เลยจ้า >> CLICK!!

อย่าลืมติดตามอัพเดทข้อมูลความงาม รีวิวเครื่องสำอาง สอนแต่งหน้า ส่งตรงจากเกาหลีเพื่อสาวไทยโดยเฉพาะ ได้ทางเฟสบุคเพจบิวตี้ มีทส์ ไทย >> BEAUTYMEETS THAILAND FACEBOOK PAGE

[HOW TO] แต่งหน้าพบปะเพื่อนสาว (เป็นลุคประจำวันก็ได้ด้วย!)

ฮิตที่สุดในเกาหลี! เครื่องสำอางแบบแท่ง I’M MEME: I’M MULTI STICK

00

“เครื่องสำอางประเภทสติ๊ก” เป็นเทรนด์ใหม่ที่ได้รับความสนใจจากสาวๆในประเทศเกาหลีอย่างล้นหลาม ทุกคนคงเคยได้ยินการแต่งหน้าแบบคอนทัวร์ (Contouring makeup) กันอยู่แล้วใช่ไหมละ? สาวๆเกาหลีก็เริ่มสนใจในการแต่งหน้าแบบเพิ่มมิติมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นแบรนด์เกาหลีอย่าง I’M MEME (แอมมีมี) ก็เลยได้ออกตัวเครื่องสำอางที่มีชื่อว่า “I’M MULTI STICK” มาเอาใจสาวๆผู้รักการแต่งหน้ากันอย่างเต็มที่

แต่ที่พิเศษสุดๆก็คือคุณพี่ “มัลติสติ๊ก” หรือ แท่งสารพัดประโยชน์นี้ มันไม่ได้มีแค่คอนทัวร์อย่างเดียวนะ! นางจัดเต็มโดยมีทั้งสีของรองพื้น บลัชออน ไฮไลท์ และเฉดดิ้ง เป๊ะจริงค่ะ!

01

02

ในส่วนของ #Swatch นั้น….

03

อันนี้เป็นรูปภาพจากทางเว็บไซต์ของ Memebox เห็นแล้วก็ใจเต้นอยากรีบสั่งจองกันเลยทีเดียว งั้นลองไปดู swatch จากทางบ้านกันด้วยเนอะ

04

05

มาดูลักษณะของผลิตภัณฑ์กันแบบใกล้ๆอีกทีดีไหมคะ?♡

17

ขนาดความกว้างของนางคล้ายๆ Benefit tint ค่ะ

18

19

น่ารักน่าใช้สุดๆ

♡สำหรับวิธีการใช้งาน ก็ง่ายมากๆเลยค่ะ♡

06

ลงสีรองพื้นเบจสว่างหรือสีที่เหมาะกับสีผิวของตัวเองก่อนเลย ตรงนี้จะใช้สีเบจสว่างค่ะ

07

จากนั้นใช้สีที่เข้มขึ้นมาอีกนิด (สีเบจกลาง) ไล้บริเวณแก้มเพื่อเพิ่มมิติให้กับใบหน้า ถ้าใครใช้สีเบจกลางอยู่แล้วก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลยค่ะ

08

ถัดมาใช้เฉดดิ้งสติ๊กวาดลงรอบโครงหน้า

09

สำหรับการไล้ดั้งนั้นให้ใช้แปรงจิ้มเฉดดิ้งสติ๊กแล้วก็คอนทัวร์จมูกแบบนี้ค่ะ

10

ฮ่าๆๆ อย่าเพิ่งฮากับรูปนะ ต่อไปใช้ไฮไลท์โบกลงบริเวณที่อยากเพิ่มความสว่าง เราก็จะลงบริเวณข้างๆ ริมฝีปาก เหนือริมฝีปาก สันจมูก โหนกคิ้ว

11

ใช้บลัชออนสติ๊กสีโอรสวาดรูปหัวใจบนโหนกแก้มเลยจ้ะ

12

แล้วก็ใช้บลัชออนสีโครัลปาดลงบริเวณข้างแก้มเพื่อเป็นการเชื่อมสีและสร้างมิติให้สวยขึ้นค่ะ

13

พร้อมกับการเบลนด์กันหรือยังทุกคน?!!

14

ใช้บิวตี้เบลนเดอร์ หรือฟองน้ำรูปไข่ในการเกลี่ยให้ทุกอย่างเข้ากันค่ะ เริ่มจากเบลนด์สีที่สว่างก่อนนะ (ต้องยิ้มอ่อนเวลาเบลนด์ด้วยถึงจะสวย)

และผลลัพธ์ที่ได้ก็คือความปังเช่นนี้ค่ะ…!

15

♡♡♡

16

ดีงามสุดๆ♡

สำหรับสาวๆที่สนใจผลิตภัณฑ์นี้ก็ลองเช็คเว็บไซต์ของมีมี่บ็อกซ์ได้เลย คลิ๊ก!

อย่าลืมคอมเม้นบอกกันด้วยนะว่าคราวหน้าอยากให้บิวตี้มีทส์มารีวิวหรือแนะนำผลิตภัณฑ์ตัวไหนอีก สัญญาว่าจะจัดมาให้แน่นอนจ้า แล้วพบกันใหม่นะจ๊ะ เลิฟ♡

ติดตามข้อมูลความงาม แฟชั่น รีวิวเครื่องสำอาง สอนแต่งหน้าที่เข้าใจง่ายได้ทาง บิวตี้มีทส์ ไทยแลนด์ แฟนเพจ >> BEAUTYMEETS THAILAND FACEBOOK PAGE 

Special thanks to: bad_adult.blog.me & vincent_vg.blog.me & nettix.blog.me

ฮิตที่สุดในเกาหลี! เครื่องสำอางแบบแท่ง I’M MEME: I’M MULTI STICK

งานเปิดตัว Cushion ของ G-Dragon & Sandara Park ! ในแบรนด์เครื่องสำอาง “moonshot” แห่งค่าย YG

00

กรีดร้อง!!! เปิดตัวเครื่องสำอางสุดฮ็อตแบรนด์ดังจากฝั่งเกาหลี “moonshot (มูนช็อต)” ซึ่งเป็นของค่ายเพลงชื่อดังอย่าง YG Entertainment โดยมีพรีเซ็นเตอร์อย่าง “จีดราก้อน” และ “ซานดาร่า ปาร์ก” บอกได้เลยว่า “มูนช็อต” นี้เป็นแบรนด์ที่ต้องจับตามองในปีนี้แน่นอน เพราะไม่เพียงแต่ได้พรีเซนเตอร์ขวัญใจติ่งเกาหลีทั่วโลก แต่คุณภาพเครื่องสำอางของเขาดีระดับท็อปแบรนด์เลยด้วยนะ

งานนี้บิวตี้ มีทส์ได้ไปแอบดูงานเปิดตัว “คุชชั่น” ซึ่งจัดขึ้นที่ถนนคาโรซูกิล ณ กรุงโซล ภายใต้ชื่อว่า MOONSHOT Cushion Lounge Light & Light อีกทั้งได้ลองไปเล่นสินค้าทั้งสองอย่างมาแล้วด้วย! ถ้าใครอยากรู้ว่าเป็นอย่างไรก็ต้องอ่านต่อไปเลย

จๅ

งานจัดขึ้นในลักษณะของ exhibition สามารถลองเล่นผลิตภัณฑ์ดูได้

05

03

มาดูคุชชั่นตัวแรกกัน นี่คือ moonshot Microfit Cushion หรือเรียกอีกชื่อว่า GD Cushion นั่นเองค่ะ เป็นรองพื้นคุชชั่นแบบที่เราคุ้นเคยกันดีในแบรนด์เครื่องสำอางเกาหลี แต่ความพิเศษของมูนช็อตคือ เขาปล่อยออกมาทั้งหมด 3 สีค่ะ

04

ที่บอกว่าพิเศษเป็นเพราะส่วนใหญ่รองพื้นของเกาหลีจะมีแค่สองสีเท่านั้น คือเบอร์ 21,23 ซึ่งจริงๆแล้วสำหรับผิวสาวไทยส่วนใหญ่ก็สว่างหน้าลอยพอสมควร  แต่พอสอบถามกับผู้แนะนำของมูนช็อต เขาบอกว่าทางแบรนด์ต้องการให้เครื่องสำอางเหมาะกับสาวทั่วโลก และมีแพลนที่จะลง Sephora เร็วๆนี้ จึงปรับสีให้หลากหลายขึ้น

06

จีดีคุชชั่นตัวนี้เขาออกปากว่า “ติดทนนานถึง 12 ชั่วโมง” สำหรับการปกปิดอาจจะไม่ได้ขั้นเทพ เวลาใช้ต้องค่อยๆลงทีละชั้นจึงจะปกปิดได้มากขึ้น ส่วนฟินิชลุคเป็นผิวโกลวๆ ดิวอี้ๆ สไตล์เกาหลีค่ะ

07

08

09

สำหรับจีดีคุชชั่นบอกได้เลยว่างานปกปิดอาจจะยังไม่ดีขนาดนั้น แต่ความโกลวสวยงามทีเดียวค่ะ ไม่มันเยิ้มและไม่มีกลิ่นเคมีรุนแรงด้วย กลิ่นหอมน่าใช้เลยทีเดียว อีกทั้งมีหลายสี สาวไทยน่าจะถูกใจ ก็ลองไปดูกันนะคะ

ต่อมาเราจะมาดูในส่วนของ moonshot Moonflash Cushion หรือ Dara Cushion

10

11

คุชชั่นอันนี้มีสีเดียว คือสี milky pink (ชมพูอ่อนๆ) ใช้สำหรับทาเป็นเบส คือลงก่อนรองพื้น หรือจะใช้เป็นไฮไลท์ก็แนะนำมากๆค่ะ เนื้อของเขามีประกายชิมเมอร์ด้วย สวยมากถึงมากที่สุด ทาแล้วผิวโกลวดูมีออร่าสุดๆ

12

13

เห็นความวิ้งของผลิตภัณฑ์ไหมคะ? บอกได้เลยว่างานหน้าโกลวเป็นสาวเกาหลีคงต้องพึ่งพี่คนนี้จริงๆ ทางแบรนด์ได้กระซิบบอกมาด้วยว่าตัวนี้ไว้สร้างลุค strobing makeup หรือการเปิดไฟให้กับใบหน้าได้อย่างดีเยี่ยม

รูปบรรยากาศภายในงานเพิ่มเติมค่ะ

14

15

17

18

Untitled-11

Untitled-10

Untitled-9

สำหรับผู้ที่สนใจก็ลองเช็คข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ของมูนช็อต http://www.moonshot-cosmetics.com/ ราคาคุชชั่นอยู่ที่อันละ 28,000 วอน หรือประมาณ 840 บาทค่ะ โดยเฉพาะสาวกวายจีต้องห้ามพลาดกันเลยทีเดียว

อย่าลืมติดตามอัพเดทข้อมูลความงาม แฟชั่น รีวิวเครื่องสำอาง วิธีการแต่งหน้า ส่งตรงจากเกาหลีเพื่อสาวไทยได้ทางแฟนเพจเฟสบุคบิวตี้มีทส์ ไทยแลนด์ >> BEAUTYMEETS THAILAND 

 

งานเปิดตัว Cushion ของ G-Dragon & Sandara Park ! ในแบรนด์เครื่องสำอาง “moonshot” แห่งค่าย YG

[เปิดกรุ] ลิปที่ใช้มาทั้งหมด ep.1 #ส้ม #โครัล

00

สวัสดีสาวๆ กลับมาพบกับเจ้ประจำบิวตี้มีทส์เช่นเคย วันนี้เจ้ไม่ได้มาเล่นๆค่ะ (ปกติมาเล่นด้วยหรอ) เพราะว่าจะมาเปิดกรุลิปทั้งหมดที่มีพร้อมรีวิวแบบจัดเต็มไม่มีแอ๊บให้สาวๆฟัง ขนลุกซู่ซ่าหน่อยเร็ว! อ่านปั๊บจะได้ไปตำกันถูกไง อยากบอกว่าเยอะมากๆๆๆ จนต้องขออนุญาตแบ่งเป็นหลายๆอีพีหน่อย ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ roadshop/drugstore สายเกาหลีมาเยอะหน่อยนะ แต่ก็มีแบรนด์ไทยและต่างชาติปะปนกันไปสวยๆ  อีพีแรกก็จะขอพูดถึงสีที่สดใส เฟรชชี่ ซาบซ่า เหมาะกับซัมเมอร์นั่นก็คือ สีส้ม/โครัล นั่นเอง งั้นไปรับชมรับฟังกันเลยไหมจ๊ะ

01

#TEAM_ORANGE มาเริ่มกันที่สีส้มเปรี้ยวจี๊ดกันก่อนเลย

สำหรับสีส้มเจ้คิดว่าเป็นสีที่สาวๆทุกคนควรมีนะ มันให้ลุคสดใส ทาแล้วจะดูเด็กลง เป็นสีที่ร่าเริงสุดๆไปเลยอ่ะ แต่ในบรรดาสีส้มมันก็มีสีส้มแต่ละเฉดที่ต่างกันออกไป ทั้งส้มแดง ส้มเฉดเหลือง ส้มขุ่นๆ ในกรุของเจ้ก็มีหลายเฉด อีกทั้งไม่ได้มีแค่ลิปสติกด้วย จะมารีวิวให้ทีละตัวกันนะ

02

(ซ้ายไปขวา) MAYBELLINE Rebel Bouquet REB12 // SKINFOOD Vita Color Tint Lip Oil OR01 // INNISFREE Eco Garden Balsam Tint // ETUDE HOUSE Dear Darling Neon Tint 01 // NATURE REPUBLIC Creamy Lip Stick 08 Berry Orange // 3CE Drawing Lip Pen #You Got Me!

03

MAYBELLINE Rebel Bouquet REB12: เจ้ว่านางดีงามแบบปี๊ดมาก แต่กลิ่นนี่เคมีสุดๆอ่ะ สีนี้ซื้อมาจากฮ่องกง แต่ที่ไทยก็มีขาย เนื้อกึ่งแมทค่ะ ทาแล้วไม่ตกร่อง แต่ก็แนะนำให้สครับและบำรุงปากดีๆ จะเจิดมาก เดี๋ยวจะปาดสีให้ดูพร้อมกันนะ รอแป๊ป ราคา 259 บาทค่ะ

06

SKINFOOD Vita Color Tint Lip Oil OR01: เป็นลิปออยล์ตัวใหม่ของสกินฟู้ด ตัวนี้ซื้อจากเกาหลีค่ะ กลิ่นหอมอร่อยสุดๆ เหมือนส้มๆ สีก็ส้มระเรื่อๆค่ะ กลอสซี่มากน่าดูแบบน่าจุ๊บอ่ะ ราคา 390 บาท

07

INNISFREE Eco Garden Balsam Tint: อันนี้เขาบอกกันว่าเป็นเหมือน dupe หรือของถูกที่ใช้แทนกันได้กับ Benefit Chacha Tint ก็เลยลองไปตำมา ซึ่งก็ไม่แน่ใจแฮะว่าแทนกันได้มากน้อยแค่ไหน แต่สีก็คล้ายอยู่มาก แถมเจ้ว่า applicator ของอินนิสฟรีนี่ง่ายกว่าเยอะเลย เบเนฟิตทินท์มันจะเป็นแปรงๆนุ่มๆ ใช่มะ ทาแล้วก็เลื่อนๆ แต่อันนี้คือเป๊ะเวอร์ จะทาเป็นลุคปากไล่สีก็เกาหลีสุดๆอ่ะ ราคาประมาณ 200-300 ไม่แน่ใจค่ะ

08

ETUDE HOUSE Dear Darling Neon Tint 01: ดูจากสภาพคงรู้ใช่ไหมฮะว่าดีฉันรักหลงเขามากแค่ไหน คือใช้จนแบบว่าเยินมากกกกก เพราะนางดีมากจริงๆ บอกเลยว่ารุ่นนี้คือนักเรียนม.ปลายเกาหลีฮิตมาก เข้าร้านไปซื้อก็ต้องไปตบแย่งชิงกับพวกนาง ราคาประมาณ 4,000 วอน (120บาท) เป็นสีส้มที่แบบเกาาาาาสุดอะไรสุด ส้มเรืองแสง ทินท์ๆ กลิ่นโอเคด้วยนะ

09

3CE Drawing Lip Pen #You Got Me!: ชั้นรู้นะว่าพวกเธอคลั่งไคล้เจ้านี่กันมา ซื้อกันเป็นกล่องเชียว แต่เจ้ฉีกกระแส จัดมาแค่สีเดียว ซึ่งก็คิดถูกด้วยค่ะ สีส้มนี่มันเจิดจรัดมากๆ เนื้อแมทดีงาม ติดทนแบบว่ากินก๋วยเตี๋ยวสามชามยังอยู่ (เวอร์) แต่ว่าติดทนจริงๆค่ะ ชอบตรงที่สามารถไปเล่นกับสีอื่นได้ด้วย เช่นขอบปากสีนี่ แต่ด้านในทานู้ดๆโครัลๆ ก็เก๋ไปอีกแบบ ราคาจำได้ว่าประมาณ 9,000 วอน (270 บาท)

อ่ะ สงสัยล่ะสิว่าหายไปไหนอีกอัน จะให้ดูก็ได้ค่ะคุณ… ㅠㅠ

10

กรี๊ดดดดดดดดด #ร้องไห้หนักมาก หนักยิ่งกว่าผู้ชายทิ้ง คุณขา อุบัติเหตุได้บังเกิด นี่ไง อดสว้อทช์ให้ดู แถมอดเอาไว้ทาปากแซ่บด้วย ร้องไห้ไปอีก แต่อันนี้คือ NATURE REPUBLIC Creamy Lip Stick 08 Berry Orange  ซึ่งถามว่าดีขนาดไหนก็โอเคอ่ะคุณ พิกเมนท์ (เนื้อสี) ออกชัดเจนไหม ให้ 8/10 สีคล้ายกับพี่เมย์เบอลีนอันแรก แต่จะเข้มกว่า ส่วนตัวชอบเมย์เบอลีนเพราะทาแล้วเปรี้ยวกว่าค่ะ

#SWATCH กันเถิดจะเกิดผล

11

#TEAM_CORAL ต่อด้วยสีโครัลสุดเก๋กันเลยค่า

สาเหตุที่แยกสีโครัลออกมาเพราะนางแบบเป็นสีมึนๆหน่อย จะชมพูก็ไม่ใช่ จะส้มก็ไม่เชิง โครัลบางโทนก็แอบนู้ดเบา เอาเป็นว่าอย่าว่ากันนะ อยากให้ทุกคนเอ็นจอยและจะได้เห็นความต่างของเนื้อสีด้วยเนอะ

12

(ซ้ายไปขวา) SKINFOOD Pomegranate Lip Chic OR02 // ARITAUM Wannabe Cushion Tint No.14 // TONY MOLY Kiss Lover Style Lipstick SG01 // 4u2 Lipaholic x Bloggers #MayyR // L’Oreal Paris Color Rich L’Extraordinaire Matte #Orangerie Sunset

13

SKINFOOD Pomegranate Lip Chic OR02: เป็นสีที่เจ้ใช้บ่อยมากฮะ โครัลส้มสดใส เนื้อสีถามว่าชัดไหมก็โอเคอ่ะ 8/10 เนื้อไม่แมทนะ กำลังดี ราคาประมาณ 300-400 บาทจ้า

14

ARITAUM Wannabe Cushion Tint No.14: เป็นอีกสายเกาหลีที่น่าสนใจค่ะ ทินท์ที่มีคุชชั่นอยู่ตรงปลายด้าม ทาแล้วเกลี่ยให้ไล่สีกันให้หนำใจ ตอนแรกซื้อมาเพราะแพจเกจสวยดี แล้วก็อยากลองลิปที่แบบโครัลอ่อนๆไปทางนู้ด ก็โอเคนะ พึงพอใจ รุ่นนี้มีหลายสีค่ะ ลองไปดูกันได้ ราคาจำได้ว่าประมาณ 250-300 บาทค่ะ (ซื้อที่เกาหลี)

17

TONY MOLY Kiss Lover Style Lipstick SG01: โทนี่โมลี่ แบรนด์เกาหลีสุดฮิตค่ะ ราคาก็สบายกระเป๋า ประมาณสามสี่พันวอน (ไม่เกิน 120บาท) อันนี้เป็นสีโครัลแบบออกชมพู แต่ชอบมากเลยนะ สีแบบสดใสดี เนื้อไม่แมทท์ ทาแบบไล่สีก็เจ๋งเลย

15

4u2 Lipaholic x Bloggers #MayyR: ขอออกตัวเลยว่าปลาบปลื้มกับยี่ห้อนี้มากๆค่ะ คำว่าถูกและดีมีจริงในโลก นี่คือไปตำมาที่ eve and boy ราคาแค่แท่งละร้อยบาท แต่คุณภาพเกินล้านอ่ะ เนื้อสีชัดมากกกกก ไม่ตกร่องเลย เสียอย่างเดียวจริงๆคือกลิ่นแรง แต่ว่าเจ้ก็ชอบ ให้ 10/10 สำหรับสีของคุณเมอาร์ เป็นสีส้มอมชมพู ทาแล้วดูแพงแบบเฟรนด์ลี่ อารมณ์ว่าชั้นก็สาวขี้เล่นนะคะ อิอิ

16

L’Oreal Paris Color Rich L’Extraordinaire Matte #Orangerie Sunset: สีนี้เป็นตัวแทนของสายโครัลจริงๆค่ะ สีนางตอบโจทย์มาก เป็นเนื้อลิควิดนะ แต่ทาแล้วได้ลุคแมท ใครปากแห้งนี่จบเกมอ่ะ ไม่ผ่านจริงๆ แต่ส่วนตัวชอบทาแบบแตะๆ พร้อมกับเม้มปาก สีจะคิ้วมาก สาวญี่ปุ่นสุดๆ กลิ่นก็หอมด้วยนะ

#SWATCH ปาดสดให้หมดเปลือก!

18

 ใครมีข้อสงสัยหรืออยากให้เปิดกรุอะไรก็บอกกันได้ทางเฟสบุคของบิวตี้ มีทส์ ไทยแลนด์ นะจ๊ะ >> BEAUTYMEETS THAILAND FACEBOOK 

แล้วพบกันตอนหน้า จะมาเปิดกรุสีอะไรก็ติดตามกันได้เลยค่า

ส่งรอยจุ๊บสีโครัลให้นางทุกคน, beautymeets

[เปิดกรุ] ลิปที่ใช้มาทั้งหมด ep.1 #ส้ม #โครัล

[HOW TO] แต่งหน้าลุคแซ่บสไตล์นางแบบเกาหลี #เผ็ดมาก

00

อันนยองคนสวย! วันนี้บิวตี้มีทส์นำลุคแซ่บสไตล์นางแบบเกาหลีมาฝาก สาวหมวยคงถูกใจกันมากเลยทีเดียว แต่จะหมวยไม่หมวยก็สวยได้ทุกคนเลยนะ เรามาดึงความแซ่บภายในออกมาให้ชาวโลกได้เห็นกันเลยดีมะ!?

(ลุคนี้ได้มาจากบิวตี้กูรูสาวเกาหลีอินเตอร์ “ดาช่า คิม” (ฟอลไอจีนาง คลิ๊ก) และนางแบบเกาหลีสุดฮอต “ฮีจู” (ฟอลไอจีนาง คลิ๊กโลด)

01

เผ็ดมากจริงๆ พริกกะเหรี่ยงร้อยเม็ดกันเลยทีเดียว

02

☾ เครื่องสำอางที่ใช้ ☽

ไพร์มเมอร์ Giorgio Armani UV Master Primer SPF 40 PA+++
รองพื้น Giorgio Armani Fluid Sheer / 7
รองพื้น Giorgio Armani Luminous Silk Foundation
คอนซีลเลอร์ Luna Long Lasting Tip concealer / 02
แป้งฝุ่น Bobbi Brown Retouching Powder / 04 Peach
คอนทัวร์ Kat Von D Light and Shade Contour Palette
ที่เขียนคิ้วแบบฝุ่น Skin Food Choco Eyebrow Powder Cake / 02
ไฮไลท์เตอร์/คอนซีลเลอร์ YSL Touche Eclat / 1.5
อายไพร์มเมอร์ Benefit Air Patrol
อายแชโดว์พาเล็ท Too Faced Chocolate Palette
อายแชโดว์ Innisfree Single Eyeshadow / 22
อายแชโดว์พาเล็ท Anastasia Beverly Hills Self Made Palette
ขนตาปลอม BN Eye Love Magic Eyelashes / Bambina 03
มาสคาร่า YSL Volume Effet Waterproof Mascara
บลัชออน Too Faced Love Flush / Baby Love
ไฮไลท์เตอร์ YSL Palette Lumière Divine Highlighting Finishing Powder for Fall 2015
ลิปไลน์เนอร์ Bare Minerals Lip Pencil / Exhilarated

☾ Let’s get started! ☽

03

เริ่มด้วยการลงไพร์มเมอร์ทั่วใบหน้าเพื่อลุคผิวโกลวๆค่ะ

04

ผสมรองพื้นสองสีจนได้สีที่เข้ากับผิวแล้วลงทั่วใบหน้าเลยค่ะ (แนะนำว่าใช้รองพื้นที่เหมาะกับผิวตัวเองอยู่แล้วก็ได้ค่า)

05

แต้มคอนซีลเลอร์บริเวณใต้ตาและจุดที่ต้องการไฮไลท์ จากนั้นใช้แปรงเกลี่ยให้เนียนเรียบร้อย

06

มาถึงเทคนิคเด็ด! เซ็ตเครื่องสำอางด้วยแป้งฝุ่นโดยลงไว้ใต้ตาแบบนี้ค่ะ เทคนิคนี้จะทำให้ไฮไลท์หน้าพุ่งได้สวยขึ้น แปะไว้เป็นกองๆแบบนี้ก่อนระหว่างเราแต่งตา พอแต่งเสร็จเราค่อยเกลี่ยเพื่อเก็บผลงานค่ะ

07

จากนั้นก็คอนทัวร์หน้ากันเลย ใช้สีน้ำตาลในการไล้คางและข้างแก้ม รวมทั้งไล้ดั้งให้พุ่งๆ กันไปเลยค่า

08

นี่คืออุปกรณ์เขียนคิ้วที่เราจะใช้กันค่ะ

09

ใช้แปรงเขียนคิ้วโดยลงสีตามโครงคิ้วเลยค่ะ

10

ไฮไลท์โหนกคิ้วให้เป๊ะยิ่งขึ้นด้วยค่ะ

11

ลงอายไพร์เมอร์บนเปลือกตาค่ะ ดาช่าแอบเชียร์ว่า Air Patrol ของ Benefit ดีงามพระรามแปดมากๆ

12

ลงอายแชโดว์กันเลย! ก่อนอื่นเลือกสี White Chocolate จากพาเล็ตช็อคโกแลตบาร์ ทาทั่วเปลือกตาเลยจ้า

13

จากนั้นใช้อายแชโดว์สีเบอร์ 22 ของอินนิสฟรี เป็นสีส้มคาราเมลเก๋ๆ ลงบนเปลือกตาเลยค่ะ

15

14

แล้วผสมสี Semi-sweet & Milk Chocolate ลงบนเปลือกตาแต่ไม่ต้องทั่วเปลือกตานะคะ ให้ลุคเป็นสโมคกี้อายเบาๆ

17

16

จากนั้นใช้สี Triple Fudge ซึ่งเป็นสีน้ำตาลเข้มแบบดาร์กช็อคโกแล็ตลงเพื่อเน้นเส้นขอบตามากขึ้น

18

สำหรับลุคนี้เราจะไม่ใช้อายไลน์เนอร์ค่ะ แต่เลือกอายแชโดว์สีดำเนื้อแมทในการเน้นขอบตาแทน ใช้เหมือนแทนอายไลน์เนอร์ไปเลย

19

ใช้สี Milk Chocolate ลงบริเวณขอบตาล่างเพื่อความปัง

20

ใช้สีน้ำตาลเข้ม (Triple Fudge) เน้นบริเวณหางตาค่ะ

 21

22

ใช้สี Metallic ซึ่งเป็นสีทองประกายเพชร เน้นบริเวณตรงกลางของขอบตาล่าง

23

ใช้อายไลน์เนอร์สีดำเน้นเส้นขอบตาล่าง เขียนเบาๆ อย่าหนามากนะคะ วิธีนี้จะทำให้ตาโตขึ้น

24

เพิ่มความปังด้วยการติดขนตาปลอม จากนั้นปัดมาสคาร่าทั้งบนและล่างเลยค่ะ

25

ลงบลัชออนสีพีชบนแก้ม

26

ใช้ไฮไลท์แบบฝุ่นลงบริเวณหน้าผาก สันจมูก เหนือริมฝีปาก คาง โหนกแก้ม ทำให้ยิ่งโกลวพุ่งๆขึ้นไปอีกค่ะ

27

ลงสีปากกันด้วยลิปไลน์เนอร์สีนู้ด เพิ่มความชิคสมกับเป็นนางแบบกันไปเลยค่ะ

และนี่คือลุคที่เสร็จสมบูรณ์ ยิ่งดูยิ่งแซ่บ เผ็ดร้อนสไตล์นางแบบเกาหลีอินเตอร์

28

29

ใครอยากดูสะดวกๆ คลิ๊กไปดูคลิปได้เลยค่ะ (ภาษาอังกฤษ) >> CLICK!!

อย่าลืมติดตามอัพเดทข้อมูลความงาม รีวิวเครื่องสำอาง สอนแต่งหน้า ส่งตรงจากเกาหลีเพื่อสาวไทยโดยเฉพาะ ได้ทางเฟสบุคเพจบิวตี้ มีทส์ ไทย >> BEAUTYMEETS THAILAND FACEBOOK PAGE

xoxo, beautymeets! 

[HOW TO] แต่งหน้าลุคแซ่บสไตล์นางแบบเกาหลี #เผ็ดมาก

10 ขั้นตอนบำรุงผิวฉบับสาวเกาหลี (เป๊ะจริงอะไรจริง!)

01

ถ้าใครเคยไปเที่ยวเกาหลีหรือเคยเห็นสาวๆเกาหลีเวลามาเที่ยวเมืองไทย จะรู้ว่าผิวหน้าของแทบทุกคนสวยวิ๊งบลิงๆใสๆมาก มันก็จริงอยู่ที่อากาศเกาหลีดีกว่าเมืองไทย (ดีกว่าก็คือเย็นกว่า แดดไม่แรง หน้าไม่พัง) แต่จริงๆแล้วชะนีเกาหลีก็ต้องใช้ความพยายามอันใหญ่หลวงเพื่อดูแลผิวให้ดีเลิศ

และวันนี้บิวตี้ มีทส์ ก็อยากนำข้อมูลดีๆเกี่ยวกับ 10 ขั้นตอนของการบำรุงผิวฉบับสาวเกาหลี โห! แค่ฟังก็อึ้งแล้วเนอะ อะไรมันจะเยอะขนาดนั้น แต่นี่แหละคุณ อยากสวยก็ต้องลงทุน เอ้อ บอกไว้ก่อนนะว่าแต่ละสเต็ปไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องสำอางยี่ห้อเกาหลีเลย แค่ใช้ประเภทเดียวกันก็ได้ แล้วก็ใครที่จะลองวิธีนี้ อาจจะต้องค่อยๆ ลองของใหม่ไปทีละครั้ง ไม่ใช่ว่าซื้อใหม่ทั้งเซ็ทแล้วโบกทีเดียวเลยนะคะ (เดี๋ยวผิวช็อคและเกิดแพ้ขึ้นมาจะยุ่ง) สมมติอาทิตย์นี้ลองใช้โทเนอร์ยี่ห้อใหม่ ก็ลองใช้สักอาทิตย์หนึ่งก่อน อาทิตย์หน้าถึงเริ่มใช้อายครีมยี่ห้อใหม่ ฯลฯ กิจวัตรการบำรุงผิวนี้อาจฟังดูเหมาะสำหรับสาวที่ทุนทรัพย์เยอะแต่ก็ประยุกต์ทำบางขั้นตอนที่สามารถก็ได้จ้า อีกทั้งไม่จำเป็นต้องทำซะทุกวันนะ เอาล่ะ  ไปดูกันเลยโนะ!

02

1) ล้างเครื่องสำอาง

ขั้นตอนแรกเริ่มสุดคือการลบเครื่องสำอางให้หมดจดจากใบหน้าค่ะ เมคอัพรีมูฟเวอร์ประเภทออยล์ได้รับความนิยมมาก เพราะไม่ต้องใช้สำลีหรือทิชชู่ แถมยังล้างง่าย เพียงแค่หยดลงมือ ถูทั่วใบหน้า แล้วล้างออกด้วยน้ำ ตัวที่ใช้ดีก็มี Hanyul Pure Artemisia Cleansing Oil ฮันยูลเป็นแบรนด์เกาหลีที่ได้รับความนิยมมากเพราะมีส่วนประกอบจากธรรมชาติ เช่น สมุนไพรต้นตำรับจากเกาหลี อีกอย่างที่แนะนำคือ Banila Co Clean It Zero เป็นบาล์มเช็ดเครื่องสำอางที่เปลี่ยนตัวเป็นออยล์ได้ สำหรับแบรนด์ที่หาซื้อง่ายในบ้านเราก็มี Biore Cleansing Oil ค่ะ แอดมินใช้เองก็รู้สึกว่าดีมากเลย

03

2) ล้างหน้า

สาวเกาหลีก็เหมือนสาวไทยคือนิยมใช้โฟมล้างหน้าค่ะ ที่อยากแนะนำคือ Biotherm Pure-fect Cleanser เหมาะมากสำหรับสาวๆที่มีผิวมันและเป็นสิว อีกอย่างคือ Laneige Multi Cleanser ใช้ดีเหมือนกันค่ะ รู้สึกผิวสะอาดขึ้นแบบจริงๆ ขั้นตอนล้างหน้านี้สำคัญมากนะ บางคนล้างเครื่องสำอางแล้วล้างน้ำเปล่าอย่างเดียว ไม่ได้เลยนะจ๊ะ เพราะโฟมจะช่วยขจัดความมันและสิ่งสกปรกตกค้างให้หายไป ก็เลือกให้เหมาะกับผิวของแต่คนละกันเนอะ

04

3) เช็ดด้วยโทนเนอร์

การใช้โทนเนอร์จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่หลงเหลือให้หมดสิ้นไป บางทีล้างหน้าแล้ว แต่พอเช็ดด้วยโทนเนอร์ (หยดโทนเนอร์ลงบนสำลีแล้วเช็ดผิว) ก็ยังคงเห็นคราบอยู่ ดังนั้นวิธีนี้สำคัญมากค่ะ ไม่ควรละเลย การใช้โทนเนอร์ยังเป็นการเตรียมผิวให้พร้อมรับครีมบำรุงด้วยนะ มีโทนเนอร์ที่แนะนำก็คือ Biotherm Pure-fect Toner ซึ่งมาเป็นเซ็ทเดียวกันกับโฟมที่ช่วยปรับผิวมันเป็นสิวให้ดีขึ้น อีกตัวคือ Hanyul Rice Skin Softener อันนี้ฮิตสุดในเกาหลี ผิวนุ่มนิ่ม

05

4) ผลัดเซลล์ผิว

ขั้นตอนนี้ก็สำคัญค่ะ ควรทำอย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อเป็นการกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว การผลัดเซลล์ผิวมีหลายวิธี เช่น สครับ มาส์กโคลน พอกหน้าด้วยพีลลิ่งมาส์ก ซึ่งจะทำให้ผิวสะอาดและนุ่มนวลขึ้นทันที มาส์กโคลนของอินนิสฟรี (Innisfree Volcanic Pore Clay Mask) อันนี้ดีงามค่ะ ทำให้รู้สึกเย็นๆบนผิว ยิ่งเหมาะกับอากาศเมืองไทย อีกทั้งทำความสะอาดรูขุมขนได้ดี

06

5) บำรุงด้วยเอสเซ้นส์

Essence หรือที่คนไทยชินกับคำว่า “น้ำตบ” ก็สำคัญมากกับผิวเช่นกันค่ะ ช่วยให้ผิวกระชับและกระจ่างใสขึ้น สาวเกาหลีก็ให้ความกับเอสเซ้นส์มาก ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมก็หนีไม่พ้น SK-II Essence ใช้ได้ดีทั้งผิวผู้ชายและผู้หญิงเลยค่ะ

07

6) ทาผิวด้วยเซรั่ม

เซรั่มส่วนใหญ่บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นขึ้นค่ะ แต่เนื้อจะไม่หนืดและหนาเท่าครีมมอยซ์เจอร์ เนื้อจะค่อนข้างเบาบาง ที่ใช้ดีแล้วต้องแนะนำคือ Innisfree Green Tea Seed Serum คาดว่าทุกคนเคยได้ยินกันมาเนอะ

08

7) บำรุงด้วยมอยซ์เจอร์ไรเซอร์

moisturizer หรือครีมบำรุงความชุ่มชื้นคาดว่าทุกคนต้องใช้กันเป็นประจำอยู่แล้ว รวมไปถึงพวกอิมัลชั่น (emulsion) ด้วยค่ะ สเต็ปนี้ก็ขาดไม่ได้ เป็นเหมือนพื้นฐานของการดูแลผิวเลยก็ว่าได้นะ สำหรับคนที่มีผิวมันลองเลือกอิมัลชั่นเพราะเนื้อจะข้นน้อยกว่าครีม ตัวนี้ก็ดีนะ IOPE Moistgen Emulsion Skin Hydration ส่วนสาวๆที่มีผิวแห้งก็อาจจะต้องดูเป็นครีม (แต่บางทีอากาศบ้านเรามันร้อน ใช้อิมัลชั่นสำหรับตอนกลางวันก็ไหวอยู่)

09

8) ไนท์ครีมและสลีพมาส์ก

เป็นการบำรุงแบบจัดเต็มเพื่อผิวใสวิ๊งๆเวลาตื่นมาค่ะ สลีพมาส์กที่ดังๆก็มี Laneige Water Sleeping Mask รวมถึงใช้แล้วดีก็มี Banila Co The Dream Cream Pure White Moisturizer และ Hanyul Sleep Pack อีกด้วย แต่สาวเกาหลีบางคนก็ชอบมาส์กหน้าแบบเป็นแผ่นๆ สัก 10-20 นาทีก่อนเข้านอนด้วยนะ เทคนิคคือนำมาส์กไปแช่ตู้เย็นไว้ พอมาแปะแล้วจะเย็นๆดีสุดๆเลยอ่ะ วิธีนี้แนะนำค่ะ

10

9) ดูแลผิวรอบดวงตาด้วยอายครีม

หลายคนอาจจะยังไม่ได้ใส่ใจกับขั้นตอนนี้นักโดยเฉพาะสาวๆที่ยังอายุน้อย แต่ถ้าเริ่มเข้าใกล้ยี่สิบปลายๆแล้วล่ะก็ อาจจะต้องพิจารณากันหน่อยเนอะ อายครีมจะช่วยลดรอยตีนกา รอยคล้ำใต้ตา รอยเหี่ยวย่นรอบดวงตา แนะนำตัวนี้เลย SK-II Eye cream

11

10) ทาครีมกันแดด

อันนี้อาจจะไม่ต้องถึงขั้นทาก่อนนอน แต่ก่อนออกจากบ้านได้โปรดอย่าลืมค่ะ เพราะผิวเราโดนแสงอาทิตย์ได้เสมอ แสงอาจจะเข้ามาทางหน้าต่างที่โรงเรียน หรือออฟฟิศ หรือขณะขับรถ ป้องกันไว้ก่อนก็ดีเนอะ จะได้รักษาผิวหน้าให้สวยไปนานๆ

และทั้งหมดก็เป็น 10 ขั้นตอนสุดอลังการของการดูแลผิวสไตล์สาวเกาหลี ขอบคุณข้อมูลจากบิวตี้กูรูสาวเกาหลีอเมริกัน Beautifymeeh (ดูคลิปเต็มของชี คลิ๊กเลย!) สาวไทยอย่างเราก็ลองอ่านไปปรับใช้กันดูได้ค่ะ ไม่ถึงขั้นต้องครบเครื่องก็ได้นะ ดูไว้เป็นไอเดีย และอย่าลืมว่าสิ่งสำคัญที่สุดเพื่อผิวสวยคือการพักผ่อนและทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะการดื่มน้ำและวิตามิน นะจ๊ะ♥♥♥

ถ้าเพื่อนๆ มีข้อสงสัยเกี่ยวกับเครื่องสำอางเกาหลีหรือเทคนิคดูแลตัวใดใด แวะมาถามบิวตี้ มีทส์ ทางเฟสบุคแฟนเพจได้เลย >> BEAUTYMEETS THAILAND FACEBOOK

เลิฟสาวๆทุกคน,  xoxo, beautymeets

10 ขั้นตอนบำรุงผิวฉบับสาวเกาหลี (เป๊ะจริงอะไรจริง!)

10 เทคนิคดูแลตัวเองให้สวยปัง! แม้ช่วงสอบก็ไม่หวั่น!

00

สวัสดีสาวๆ! บิวตี้มีทส์คนเดิมเพิ่มเติมคือความสวย กลับมาอีกแล้วค่ะ❤️ #โดนผู้อ่านตบหน้า

อ่ะอย่าเพิ่งกดปิดหน้าจอกันไปนะๆๆ วันนี้เจ้นำเทคนิคที่มีประโยชน์ต่อชีวิตและวงหน้าของสาวๆทุกคนมาฝากกัน เพราะเทคนิค 10 ประการที่เจ้กำลังจะมาเล่าให้ฟังเนี่ยสามารถเอาไปใช้ได้จริงเพื่อที่จะดูแลความงามและสุขภาพโดยเฉพาะช่วงอ่านหนังสือสอบหรือโหมงานหนัก! หลายคนเป็นใช่ไหม? พอช่วงสอบทีไรก็ปล่อยให้ตัวเองดูโทรม หน้าก็ไม่มีเวลาจะแต่ง มาส์กก็ไม่มีวันจะโปะ Nooooo! ผู้หญิงต้องอย่าหยุดสวย ดังนั้นไปดูเทคนิคง่ายๆกันเลยไหมจ๊ะ?

1) ดื่มน้ำเยอะๆ พกเป็นกระบอกหรือขวดน้ำก็ได้ แต่น้ำดื่มไม่ควรขาดมือ!

01

มนุษย์ทุกคนรู้ถึงประโยชน์อันยิ่งใหญ่ของน้ำที่มีต่อร่างกายของเราอย่างดี แต่หลายคนมักไม่ได้ดื่มน้ำมากเพียงพอ (ก็คือดื่มแค่ตอนกินข้าวหรือตอนกระหายน้ำเท่านั้นแหละ) จริงๆแล้วร่างกายของเราต้องการน้ำถึง 2 ลิตรต่อวัน (ประมาณ8แก้ว) แต่เอาเถอะ บางทีเราก็ไม่อยากเสียเวลามานั่งนับ ดังนั้นขอแนะนำเทคนิคสำหรับใครที่อยู่ในช่วงอ่านหนังสืออย่างเคร่งเครียด ให้จัดเวลาอ่านหนังสือโดยอ่านต่อเนื่อง 50 นาที และพักสมองเป็นเวลา 10 นาที แล้วตอนพักนี่แหละก็จัดน้ำไปซักแก้วให้ชื่นใจ ทำเป็นนิสัยก็ดีเลยนะ ระบบขับถ่ายจะดีขึ้น ผิวพรรณก็ผ่องใส

2) Power Nap อันทรงพลัง!

02

เคยได้ยินเกี่ยวกับ “พาวเวอร์ แน็พ” กันใช่ไหมเอ่ย? มันก็คือการงีบน่ะแหละ แต่ไม่ใช่เป็นชั่วโมงๆนะ! ระหว่างการอ่านหนังสือ ถ้ารู้สึกว่าง่วงสุดๆไปเลยเห้ย อีกห้าวิชั้นขาดใจแน่นอน ก็ต้องจัดพาวเวอร์แน็พไปซะหน่อย ไปนอนพักซะหนูน้อย แต่ให้เวลาแค่ 15-20 นาทีเท่านั้นนะ! ตั้งนาฬิกาปลุกไว้เลย ตื่นมาแล้วจะพบว่ามันมหัศจรรย์มากๆ พลังงานจะกลับมา แต่ต้องสัญญากับตัวเองด้วยว่าห้ามเกินยี่สิบนาที เพราะไม่งั้นจะกลายเป็นหลับยาวแล้วตื่นมาอีกทีคือจะเหนื่อยและสลึมสลือมาก เทคนิคนี้เจ้เคยใช้ อยากบอกว่ามันดีงามชริงๆ

3) ใช้ความเย็นประคบตาที่เหนื่อยล้าให้กลับมาสดใส ❤️

03

อ่านหนังสือนานๆก็จะรู้สึกล้าๆเหนื่อยๆปวดตาก็เป็นธรรมดาอยู่ละ ยิ่งใครเป็นทาสคอนแทคเลนส์ด้วยละก็ โห เจ้เข้าใจความรู้สึกมาก มาลองวิธีนี้เลยค่ะ ใช้สำลีชุบน้ำเย็น (เน้นว่าเย็นนะ เอาแบบฉ่ำใจไหมพี่ไปเลย) จากนั้นเอามาแปะประคบไว้บนเปลือกตา นั่งรีแล็กซ์ไปจนมันหายเย็นอ่ะ (ประมาณ 5 นาที) ความสดชื่นก็จะกลับมา หน้าก็ไม่โทรมด้วย

4) บำรุงด้วยแตงกวา บอกลาหมีแพนด้า

04

การประคบตาด้วยแตงกว่าคงเป็นเรื่องที่ common สุดๆ จนทุกคนคงคิดว่า “พี่จะมาบอกหนูทำไมคะ” เห้ย แต่ก็มันดีจริงจนต้องย้ำอีก ขนาดบิวตี้บล็อกเกอร์ตัวแม่อย่าง Michelle Phan นางยังแนะนำเลยนะว่าถ้าอยากบอกลารอบคล้ำใต้ตา ต้องทำมาส์กแตงกว่าจริงๆ แต่เจ้มีเทคนิคเด็ดง่ายมาก คือฝานแตงกวาเป็นแว่นๆ แล้วเอาแช่ช่องฟรีซไว้เลย ทีนี้ก่อนนอน หรือเวลารู้สึกตาเหนื่อยๆล้าๆ ก็หยิบนางมาโปะตาไว้ นอกจากจะรู้สึกสดชื่นขึ้นแล้ว ตาน้องหมีแพนด้าก็จะได้ไม่มาถามหาอีกด้วยนะ

5) ฉีดน้ำแร่บำรุงผิวไว้สม่ำเสมอ

05

วิธีนี้ทำให้ผิวสดชื่นและเป็นการบำรุงได้อย่างฉับไว หากอ่านหนังสือไปสักพักแล้วรู้สึกล้าๆ ก็ลองหยิบสเปรย์น้ำแร่ หรือ facial mist มาเพิ่มความสดชื่นกันดู วิธีนี้เจ้ใช้เป็นประจำ โดยเฉพาะสาวๆที่มีผิวแห้งยิ่งต้องมีติดไว้เลย แต่ถ้าใครผิวมันก็ไม่ใช่ว่าใช้ไม่ได้นะ แนะนำให้ใช้กันเพราะมันก็คือการบำรุงผิว ไม่ได้เพิ่มความมันให้กับใบหน้านะเออ

6) ปรับบรรยากาศ ผ่อนคลายความตึงเครียด ด้วยกลิ่นหอมๆ❤️

06

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่ากลิ่นหอมๆก็มีผลต่อสมอง สภาพจิตใจ และการทำงานของเรา ถ้าใครอ่านหนังสือที่บ้านก็ลองจุดน้ำมันหอมระเหยหรือฉีดสเปรย์ปรับอากาศแบบพอดีๆ ให้กลิ่นมันฟุ้งๆ หอมๆ ว่าแต่ จะเลือกกลิ่นดีใช่มะ? เอาล่ะ เจ้จะบอกให้ ถ้าอยากเพิ่มสมาธิและปรับมู้ดให้ดีๆ อารมณ์ไม่เสีย ชะนีไม่เหวี่ยง ก็ลองกลิ่นเปปเปอร์มินต์หรือใบสะระแหน่ดูค่ะ เจ้ชอบอันนี้สุดๆ สดชื่นมาก แต่บางคนบอกกลิ่นเหมือนยาสีฟัน หรือจะลองกลิ่นอื่นอย่างส้มหรือมะนาว จะช่วยเพิ่ม energy หรืออีกสองกลิ่นที่แนะนำคือดอกมะลิและดอกลาเวนเดอร์ซึ่งจะช่วยลดความตึงเครียดค่ะ ใช้วิธีนี้จะช่วยให้ผ่อนคลายจากภายใน ภายนอกของเราก็จะสวยงามตามไปด้วยเลยค่ะ

7) ขยับร่างกายซะบ้าง!

07

นั่งอ่านหนังสือนานๆ ก็ต้องอย่าลืมยืดเส้นยืดสาย ให้ร่างกายได้ผ่อนคลายกันด้วยนะ จำได้ไหมที่บอกไปในข้อแรกว่า ให้ใช้หลัก อ่าน 50 นาที พัก 10 นาที นั่นแหละหนู ช่วงเวลาพักนั้น ก็ลองลุกขึ้นมาแกว่งแขน ยืดเส้นกันนะจ๊ะ หรือใครชอบอ่านหนังสือตามร้านกาแฟสตาบ๊งสตาบั๊กก็ลองออกไปเดินเล่นส่องหนุ่มๆ เอ้ย!! เดินเล่นเพื่อผ่อนคลายร่างกายกันดูนะ

 

8) บำรุงผิวก่อนนอนนั้นสำคัญมาก❤️

08

คืองี้ เจ้เข้าใจนะว่าช่วงอ่านหนังสือสอบทุกนาทีมันสำคัญไปโม้ด เวลานอนก็น้อย จะอ่านหนังสือแต่ละบทก็ต้องจัดเวลาให้ดีใช่ไหม แต่เจ้ก็อยากแนะนำว่าก่อนนอนลองโบก sleeping mask แล้วเข้านอนดู จะพบว่าความงามของผิวตอนตื่นมามันเลอค่ามากชริงๆ จะแนะนำบางตัวที่ใช้มาแล้วรู้สึกว่าดีให้ เช่น Laneige Water Sleeping Mask พี่คนนี้ดีงามพระรามแปดจริงๆ ตื่นมาผิวใสๆนิ่มๆ เลยอ่ะ ส่วนอีกอันหนึ่งขุ่นเพื่อนแนะนำมา Daiso Tofu Whitening Sleeping Pack เห้ยแก! ถูกและดีมีในโลก แต่อันนี้จะซึมเร็วมากๆ (มากกว่าลาเนจ) ซึ่งก็โอเค เหมาะกับอากาศเมืองไทยดีเลยแหละ หรือใครอยากลองยี่ห้ออื่นก็จัดไป

9) อย่าขี้เกียจแต่งหน้า!

12371064_1071632899538215_2980734375348291420_o

ฮื้อ อย่าเพิ่งเกลียดกันนะตัวเธอ ณ จุดนี้เจ้แค่เพียงจะสื่อว่า “อย่าปล่อยตัว ปล่อยหน้า ให้หมดสภาพไปหมด” ไม่ต้องลงรองพื้นเยอะๆ อย่างน้อยลงคอนซีลเลอร์หน่อยก็ได้นะ เขียนคิ้วก็เอาให้มันพอมีโครงมีสี เบาๆ เป็นธรรมชาติก็พอ ลิปมันก็พกติดไว้ ใช้แบบลิปมันมีสียิ่งดีนะ ริมฝีปากอย่าปล่อยให้แห้งกร้าน ดูแลตัวเองเถิดแล้วจะเกิดผลค่ะลูกกกก

(ใครอยากดูคลิปแต่งหน้ายามเช้าภายใน10นาที-ซับไทย คลิ๊กได้เลยจ้า!)

10) รักษาเวลานอน อย่านอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงเลย

09

ฮ่าๆๆ รูปนี้เอามาแปะให้ขำขันกันนะคะ❤️ จากประสบการณ์ส่วนตัวเมื่อตอนเจ้สอบเข้ามหา’ลัยเป็นช่วงที่หนักหนามาก เป็นหวัด ไอบ่อย จนกระทั่งไปซื้อยาแล้วได้คุยกับเภสัชกรท่านหนึ่งซึ่งแนะนำมาว่าควรนอนให้ได้ประมาณ 6 ชั่วโมงในแต่ละคืน ไม่งั้นร่างกายจะไม่มีเวลาได้พักผ่อน ภูมิต้านทานมันก็จะลด ตอนนั้นเลยใช้วิธีนอนสี่ทุ่มตื่นตีสี่มาอ่านหนังสือ (แต่ทำได้ไม่นานมาก เพราะรู้ตัวว่าไม่ใช่ morning person) แต่คิดว่าหลักการนี้ใช้ได้เสมอนะ ใครชอบอ่านหนังสือดึกหรือเช้าก็ตามแต่ก็ลองดู แต่เวลานอนไม่ควรน้อยกว่า 6 ชม. นอนน้อยก็มีผลต่อผิวหน้าด้วยนะเธอ ยังไงก็ลองปรับใช้กันดูจ้า

เจ้ก็หวังว่าบทความนี้คงจะมีประโยชน์แก่สาวๆวัยเรียนไม่มากก็น้อย หรือสาววัยทำงานด้วยนะคะ หากมีช่วงพีคที่งานเยอะมาก ก็อย่าปล่อยปละละเลยสุขภาพและความงาม เราต้องให้ออร่าของเราสวยจากภายในสู่ภายนอกเสมอค่ะคู้น (ปรบมือดังๆ)

 

รักและห่วงใยสาวๆเสมอ, beautymeets!

10 เทคนิคดูแลตัวเองให้สวยปัง! แม้ช่วงสอบก็ไม่หวั่น!

[HOW TO] แต่งหน้าแอ๊บเด็กง่ายๆ ใสใสวัยรุ่นชอบ

00

อันนยอง! บิวตี้ มีทส์ นำ #HOWTO มาฝากสาวๆ อีกแล้วจ้า วันนี้มากับลุคแอ๊บเด็ก ใสใสวัยรุ่นชอบ ในสไตล์เกาหลี จุดเด่นของลุคนี้คือ #สีชมพู และการแต่งตาที่มีวิ๊งๆ หนุ่มๆเห็นแล้วหัวใจเต้นตึกตัก ฮ่าๆๆ อย่าพูดเยอะ ไปดูกันเลยดีกว่าจ้า

♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡

01

♡เครื่องสำอางที่ใช้♡

ไพร์มเมอร์ INNISFREE : No-sebum blur primer
เบสครีม MAC : Strobe cream
รองพื้น YSL : Youth liberator serum foundation #BR40
สเปรย์ฟิกเซอร์TOO COOL FOR SCHOOL Perfect day makeup fixer
อายไพร์มเมอร์ VDL : Expert color primer for eyes
แป้งฝุ่นโปร่งแสง MAC Prep+Prime transparent finishing powder
ดินสอเขียนคิ้ว SHU UEMURA Hard formula #02,07
มาสคาร่าคิ้ว A’PIEU Skinny browcara #Dark brown
บลัชออน ETUDE : HOUSE Berry delicious cream blusher #3
บลัชออน ETUDE HOUSE Berry delicious cream blusher #2
ลิปมันบำรุง THE FACE SHOP Lovely me:ex lip care cream #02
อายแชโดว์ ETUDE HOUSE : Look at my eyes cafe #BR401
อายแชโดว์ ARITAUM : Mono eyes #41
ลิปเพนซิล URBAN DECAY : 24/7 Glide-on lip pencil #Deep
อายแชโดว์ ARITAUM : Mono eyes #106
คอนซีลเลอร์แบบดินสอ MAC : Studio chromagraphic pencil crayon multi #NW25/NC30
อายไลน์เนอร์ KATE : Slim gel pencil #Brown
ขนตาปลอม STAR LASH: #36
มาสคาร่า MAYBELLINE NEWYORK : The false lash #Brown
ลิปกลอส SHU UEMURA : Laque supreme #WN02
ลิปกลอส TOO FACED : Melted liquified long wear lipstick #Melted berry

♡มาเริ่มกันเลย♡

03

ลงไพร์มเมอร์ตามจุดดังนี้ค่ะ แก้ม หน้าผาก ใต้จมูก และคาง โดยแต้มเป็นจุดเล็กๆพอนะ จากนั้นเกลี่ยเลยค่ะ

04

จากนั้นลงเบสที่บำรุงความชุ่มชื้น อันนี้ใช้ MAC Strobe Cream แต่ถ้าใครมีผิวมันก็ข้ามขั้นนี้ไปได้ค่ะ สำหรับคนผิวแห้งแนะนำให้ใช้ จะได้ปกปิดรูขุมขนและไม่ทำให้หน้าแห้งจนเกินไปค่ะ

05

ลงรองพื้นแล้วเกลี่ยด้วยคุชชั่นค่ะ ผิวจะได้เนียนและไม่ดูเหมือนลงรองพื้นหน้าจนเกินไป

06

ฉีดสเปรย์ฟิกเซอร์เพื่อเซ็ตรองพื้นให้อยู่ตัวค่ะ

07

จากนั้นลงอายไพร์มเมอร์ เวลาเกลี่ยใช้นิ้วค่อยๆแตะนะคะ ห้ามเกลี่ยโดยการถูเด็ดขาดเลยน้า อย่าลืมแตะๆจนถึงขอบตาล่างด้วยนะคะ

08

ต่อมาเป็นเทคนิคของการวาดคิ้วให้ดูเด็กและแบ๊วๆค่ะ ใช้คอตตอนบัทเกลี่ยบริเวณคิ้วเพื่อลบรองพื้นออกไป เวลาเขียนคิ้วจะได้ดูบาง วาดง่ายขึ้น

09.jpg

ลงแป้งฝุ่นโปร่งแสงบนเปลือกตาเลยไปจนถึงคิ้วเพื่อลดความมันบนผิว

10

มาเริ่มเขียนคิ้วกันเลยค่ะ ใช้ดินสอเขียนคิ้วสีน้ำตาลอ่อนเติมสีลงไปโดยวาดให้ตรงๆก่อน

11

ส่วนหางคิ้วให้ใช้ดินสีเขียนคิ้วสีน้ำตาลเข้ม

12

ตามด้วยการปัดมาสคาร่าคิ้วสีน้ำตาลกลาง-เข้ม

13

14

จากนั้นใช้บลัชออนสีส้มพีชลงบริเวณโหนกแก้มให้ได้ลุคใสๆ

15

16

แล้วเลือกสีชมพูแตะบริเวณโหนกแก้ม ทำให้ยิ่งดูฟรุ้งฟริ้งมากขึ้น

17

ทาลิปมันที่ใช้อยู่เป็นประจำเพื่อบำรุงริมฝีปากระหว่างที่เราจะแต่งตากันค่ะ

19

18

ใช้สีน้ำตาลอ่อนลงทั่วเปลือกตาจนถึงขอบตาล่างเลยค่ะ

20

21

แล้วใช้สีแชมเปญที่มีชิมเมอร์ลงบนเปลือกตา

23

ใช้ลิปเพนซิลหรืออายไลน์เนอร์สีกุหลาบวาดลงบริเวณขอบตาล่าง อย่าลืมใช้แปรงเกลี่ยด้วยจ้ะ

24

25

มาถึงจุดขายของเมคอัพนี้ค่ะ! ลงอายแชโดว์ที่มีชิมเมอร์กึ่งชมพูแบบนี้ลงบนหัวตา เทคนิคนี้สาวๆเกาหลีใช้เยอะค่ะ ทำให้ดูเด็ก ดูแบ๊ว ใสๆ มากกกก ลงโดยใช้แปรงแตะๆนะคะ

26

ใช้คอนซีลเลอร์แบบดินสอหรืออายไลน์เนอร์สีครีมเพิ่มความแบ๊วให้กับดวงตาโดยวาดเส้นขอบตาล่างค่ะ

27

ดัดขนตาแล้วเขียนอายไลน์เนอร์โดยใช้สีน้ำตาล เน้นว่าสีน้ำตาลนะจ๊ะ จะทำให้ดูอ่อนหวาน เป็นธรรมชาติมากกว่าสีดำ

28

ติดขนตาปลอมก็ได้นะ แต่วิธีนี้จริงๆข้ามได้ แนะนำสำหรับคนที่อยากเพิ่มความโดดเด้งจริงๆ แต่ควรจะตัดขนตาแบ่งเป็น 3 ส่วน แล้วค่อยๆติดทีละชิ้น มากกว่าการติดไปทั้งแผงค่ะ

29

ปัดมาสคาร่าเลยจ้า ใช้สีน้ำตาลนะตัวเธอ อ่อนหวานและมุ้งมิ้งคือคอนเซปต์ของเราค่ะ

30

ลงลิปสีชมพูจี๊ดๆแบบนี้เลยจ้า

31

เพื่อเพิ่มความจี๊ดให้กับริมฝีปาก สามารถลงกลอสสีชมพูเข้มบริเวณด้านในริมฝีปากเพิ่มได้ค่ะ จะได้ลุคปากไล่สีสไตล์โคเรียยยย

32

และนี่ก็คือฟินิชลุคอันแสนมุ้งมิ้งของเราค่า ♡♡

02

แอ๊บแบ๊วเป็นวัยรุ่นเกาหลีกันได้อี้กกกก♡♡♡

ขอบคุณข้อมูลจาก Kyung Sun บิวตี้บล็อกเกอร์สาวเกาหลีสุดสวย “คยองซอน” ด้วยค่า

ใครอยากดูฮาวทูแบบเป็นคลิป ก็ขอเชิญคลิ๊กไปชมที่แชนแนลของนาง คลิ๊กเลย!!

อย่าลืมติดตามข้อมูลความงาม เทรนด์แฟชั่น รีวิวเครื่องสำอาง และฮาวทูสอนแต่งหน้าง่ายๆแต่สวยสุดๆ ได้ทางแฟนเพจเฟสบุคของบิวตี้ มีทส์ ไทยแลนด์นะคะ >> BEAUTYMEETS THAILAND FANPAGE

แล้วพบกันใหม่ค่ะ saranghae, beautymeets!

[HOW TO] แต่งหน้าแอ๊บเด็กง่ายๆ ใสใสวัยรุ่นชอบ

[HOW TO] แต่งหน้าใสๆสไตล์นางแบบญี่ปุ่น

00

โอะฮะโยโกไซมัสสึ~★

กลับมากับอีกครั้งกับ บิวตี้ มิชสุ แล้วหน่าก๊ะ~ (จะแอ๊บญี่ปุ่นไปถึงไหน) ฮ่าๆๆ พอก่อน เอาล่ะสาวๆ ทักทายกันซะได้กลิ่นวาซาบิขนาดนี้ คงเดาออกล่ะสิว่าบิวตี้ มีทส์ จะนำฮาวทูสไตล์ไหนมาฝาก?! ใช่แล้วค่ะ วันนี้เราจะมาสอนแต่งหน้าในชีวิตประจำวันโดยได้แรงบันดาลใจมากจากนางแบบญี่ปุ่นนั่นเอง จริงๆแล้วมันเรียกว่าสไตล์ Hangover คือ แต่งหน้ากรึ่มๆสไตล์ลำยองคาวาอี้ (เอ๊ะ) แต่อย่าเพิ่งตกใจไปนะ ลุคที่เราจะมานำเสนอนี้สามารถแต่งได้จริงในทุกวัน ไม่ดูกรึ่มหรือเยอะจนเกินไป ให้แก้มดูใสๆวัยรุ่นชอบ ว่าแล้วไปดูกันเลยไหมจ๊ะ โดโสะ ไฮ่!!!!

01

★เครื่องสำอางที่ใช้ในลุคนี้
เบส the SAEM Saemmul Face Lighter SPF30 PA++ No.2 Pink Light
รองพื้น CLIO KILL COVER LIQUID FOUNWEAR CUSHION SPF50+ PA+++ NO.3
คอนซีลเลอร์ CANMAKE Cover & Stretch Concealer No.1 / No.2
บลัชออน MISSHA [M] SOFT Blending Stick Blusher No.6
แป้งฝุ่น Nature Republic green tea fresh pure pact No.21
เฉดดิ้ง INNISFREE FACE DESIGNING DUO No.3
อายแชโดว์ Misslun Eyeshadow Studio SHADES of NUDE No.1
อายไลน์เนอร์ Holika Holika Jewel-light Waterproof Eyeliner No.8
มาสคาร่า KISS ME Heroine make long & curl mascara Super film
อายแชโดว์ eSpoir EYESHADOW PASTEL PUNCH CHIFFON BONNY
ลิปสติก SKINFOOD Fresh Fruit Lip & Cheek Trio No.1 Orange

#HOWTO

03

อันดับแรกลงเบสสีชมพูเพื่อปรับความสว่างให้กับใบหน้าค่ะ โดยเฉพาะบริเวณใต้ตาและรอบปาก

04

ลงรองพื้นแบบคุชชั่นเพื่อให้ได้งานผิวที่สวยงาม โดยลุคนี้เราจะเน้นการปัดแก้มเป็นหลัก จึงแนะนำให้ลงคุชชั่นเป็นชั้นบางๆ ซ้ำอีกครั้งที่บริเวณแก้ม จะได้ลุคผิวที่เนียนสวยค่ะ

05

จากนั้นลงคอนซีลเลอร์ที่สีใกล้เคียงกับผิวมากที่สุด เน้นปกปิดรอยคล้ำใต้ตาและบริเวณจมูก งานผิวต้องมาจริงๆ ค่ะ

06

ใช้ไฮไลท์แบบสติ๊กลงบริเวณทีโซน หน้าแก้ม เหนือริมฝีปาก และคาง เพื่อเน้นความสว่างให้กับใบหน้า

07

ตามด้วยการปัดแป้งฝุ่นลงบริเวณที่ต้องการคุมมัน เช่น ทีโซน แก้ม อย่าลืมบนเปลือกตาด้วยนะ

จค

ตามด้วยการคอนทัวร์เบาๆ บริเวณคาง ข้างแก้ม และจมูก เน้นว่าเบาๆ นะคะ

09

ส่วนของตา เริ่มจากสร้างมิติให้กับเปลือกตาด้วยการลงสีน้ำตาลอ่อนไปก่อนค่ะ ควรใช้สีน้ำตาลแมทหรือมีชิมเมอร์น้อยๆ นะ

10

ใช้สีเดิมลงบริเวณขอบตาล่างด้วยค่ะ

11

จากนั้นใช้สีน้ำตาลเข้มลงตั้งแต่หางตามาจนถึงเกือบๆหัวตาและจากหางตาเลยมาขอบตาล่างเล็กน้อย ลงสีโดยชิดขอบตาบนนะคะ เทคนิคจะทำให้ตาดูโตขึ้นเลยค่ะ

12

ดัดขนตาด้วยจ้า

13

ใช้อายไลน์เนอร์สีมุกเน้นความแบ๊วบริเวณหัวตา

14

จากนั้นปัดมาสคาร่าทั้งด้านบนและล่างเลยค่ะ โดยเน้นด้านล่างสักหน่อยนะ

15

มาถึงเทคนิคเด็ด! ใช้แหนบจับขนตาล่างให้ติดกันโดยระมัดระวัง จะทำให้ได้ลุคเหมือนตุ๊กตาแบ๊วๆค่ะ

16

ผสมอายแชโดว์สีน้ำตาลสองสีที่ใช้ไปก่อนหน้านี้แล้วระบายคิ้วให้เป็นเส้นตรง

17

18

ใช้บรัชออนสีชมพูลงบริเวณหน้าแก้มตามในรูปเลยค่ะ เน้นปัดเบาๆนุ่มนวลๆ ก่อนนะ จากนั้นค่อยลงซ้ำทีละชั้น อย่าปาดเข้มๆครั้งเดียวเลยนะคะ

19

จะได้ลุคประมาณนี้ค่ะ ดูแล้วก็ไม่แรงหรือเยอะจนเกินไปเนอะ

20

ลงสีปากด้วยสีส้มโครัลค่ะ ในลุคนี้ใช้ของสกินฟู้ด โดยเริ่มจากสีโครัลอ่อนก่อน ทาให้ทั่วริมฝีปาก แล้วด้านในลงสีส้มเข้ม จะได้ปากแบบไล่สีที่ดูน่ารักสดชื่นค่ะ

23

สีปากที่จะได้ก็จะเป็นประมาณนี้จ้า

#FINISHED_LOOK

22

21

และนี่ก็คือลุคเสร็จสมบูรณ์ค่ะ ชอบกันไหมเอ่ย?

ถ้าเพื่อนๆ อยากทราบเทคนิคฮาวทูแต่งหน้าลุคไหน ก็คอมเม้นบอกกันได้เลยนะคะ บิวตี้ มีทส์ จะจัดมาให้จ้า ★

อ้อๆๆ แล้วถ้าใครอยากดูเป็นคลิป ก็คลิ๊กไปชมได้เลย CLICK★!

(ขอบคุณวิดิโอจาก HAKONYANG Korean Makeup Artist ค่ะ)

อย่าลืมติดตามข้อมูลความงาม อัพเดทเทรนด์แฟชั่น รีวิวเครื่องสำอาง และวิธีแต่งหน้าได้ที่เฟสบุคแฟนแพจของบิวตี้ มีทส์ ไทยแลนด์ >> BEAUTYMEETS THAILAND FACEBOOK PAGE 

ไปก่อนนะคะคนสวย แล้วเจอกันจ้า

xoxo, beautymeets!

[HOW TO] แต่งหน้าใสๆสไตล์นางแบบญี่ปุ่น

[REVIEW] 3CE Stylenanda “Ho Balm” บาล์มสารพัดประโยชน์!

00

สวัสดีกันอีกครั้งค่ะ สาวๆ บิวตี้มีทส์★

วันนี้เราก็กลับมาตามคำสัญญากับ รีวิวผลิตภัณฑ์ล่าสุดจาก 3CE / Stylenanda แบรนด์เครื่องสำอางที่เรียกได้ว่ากิ๊บเก๋ที่สุดจากแดนกิมจิ ซึ่งผลิตภัณฑ์ตัวนี้น่าสนใจมากๆ ค่ะ นางคือ multi balm มัลติบาล์มสารพัดประโยชน์นี่เอง ปกติพวกเราก็จะคุ้นเคยกับมัลติบาล์มสัญชาติออสซี่กันใช่ไหมละ? คราวนี้มาลองดูกันว่า 3CE HO BALM ตัวนี้จะดีจริงหรือไม่ จะได้ไปตำกันให้ถูกนะจ๊ะ☆☆☆

01

แท่นแท้นนนนน~!! และนี่คือหน้าตาของเจ้า”โฮบาล์ม”ค่ะ แพ็กเกจก็น่ารักเต็มร้อยไปอีก แบรนด์นี้เขาขึ้นชื่อเรื่องแพ็กเกจอยู่แล้วเนอะ อีกทั้งนางแบบก็เก๋ไก๋ไปอีก ว่าแต่จะใช้ได้ดีไหมนะ?

03

ก่อนอืนมาดูกันว่านางมีส่วนผสมและสรรพคุณอะไรบ้าง☆

3CE ออกตัวว่าเจ้า “โฮบาล์ม” นี้ทำด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ 97% ซึ่งก็คือใบบัวบกนั่นเองค่ะ โดยชื่อ “โฮ” นั้นน่าจะมาจากคำว่า “โฮ รัง งี (호랑이)” ที่แปลว่าเสือในภาษาเกาหลีค่ะ แล้วทำไมต้องเป็นเสือละ? โอเค คือจริงๆแล้วใบบัวบกหรือ Centella Asiatica มีอีกชื่อเรียกว่า Tiger Grass (หญ้าเสือ) เพราะในป่าเมื่อเสือบาดเจ็บเป็นแผล มันจะชอบเอาตัวไปคลุกๆกับหญ้าใบบัวบก แผลก็จะได้รับการสมานหายเป็นปกติดี โอ้โห ดูมี story เนอะแก

02

มัลติบาล์มนี้ใช้ทาบริเวณผิวที่แห้ง เช่น ริมฝีปาก มือ ข้อศอก รวมไปถึงสามารถผสมกับครีมบำรุงผิวหรือรองพื้นเพื่อให้ความชุ่มชื้นได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

04

เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นประมาณนี้ค่ะ ค่อนข้างชุ่มชื้นมากถึงมากที่สุด เราว่าถ้าเป็นอากาศเมืองไทยก็คงจะเหลวพอสมควรเลย เก็บไว้ในห้องที่ไม่ร้อนมากดีกว่า อ้อ กลิ่นเป็นกลิ่นสะอาดๆ เหมือนกลิ่นสบู่นะ ทาส่วนไหนก็ได้หมดเลย

05

คุณสมบัติแรกสุดเลยคือนางไว้บำรุงฝีปากค่ะ โดยเฉพาะก่อนแต่งหน้า ก็ทาบาล์มตัวนี้ไว้เลย จากนั้นพอจะลงลิปสติกก็เช็ดออกเล็กน้อยแล้วค่อยทาลิป แม้แต่ทาลิปแมทก็ไหวนะ ไม่แห้งกร้าน เพราะนางล็อคความชุ่มชื้นไว้อย่างดี อีกเทคนิคคือถ้าทาปากด้วยทินท์ ก็ไม่ต้องเช็ดออก จะทำให้ปากดูกลอสซี่ๆ น่าจุ๊บมาก

06

ถัดมาคือเราสามารถใช้โฮบาล์มนี้บำรุงเล็บและมือได้ค่ะ โดยเฉพาะเล็บที่แห้งกระด้านเป็นขลุยนี่แหละ โบกพี่เสือตัวนี้ไปได้เลย ยิ่งใช้ตอนกลางคืน ตื่นมาก็จะเห็นผลเลยนะคะ ข้อศอกก็ใช้ได้เช่นกันนะ

07

อีกหนึ่งคุณสมบัติที่น่าลองคือใช้ผสมรองพื้นได้ค่ะ วิธีนี้จะทำให้ได้ลุคหน้าโกลวดิวอี้ๆแบบเกาหลี ส่วนใครที่กังวลเรื่องความมันก็อาจจะต้องระวังนิดหนึ่ง แต่ว่าวิธีนี้จะเหมาะกับคนผิวแห้งมาก! งานผิวที่ได้จะไม่ใช่มันเยิ้มๆนะ จะดูมีความชุ่มชื้น สุขภาพดี แบบนี้ (รูปล่าง)

08

เราว่าทำให้รองพื้นที่ลงดูเรียบเนียนขึ้นเลย น่าลองเอาไปผสมกับรองพื้นที่เนื้อหนาหรือทำให้หน้าแห้งเล่นดูค่ะ

ถัดมาเป็นอีกคุณสมบัติที่เจ๋งสุดๆ แท่นแท้นนนนน~

09

เราสามารถทำบลัชออนแบบครีมได้โดยผสมบลัชออนแบบแป้งเข้ากับโฮบาล์มนั่นเองค่ะ! วิธีนี้ทำให้สีของบลัชออนไม่เพี้ยนไปจากเดิม (ถ้าเทียบกับการผสมกับรองพื้น) อีกทั้งหลังจากทาบลัชออนแบบครีมลงบนแก้มแล้ว ปัดอีกทีด้วยบลัชออนเป็นฝุ่นจะทำให้แก้มสีสวยติดทนนานทั้งวันด้วย รู้ใช่ไหมละ? อิอิ

10

อ๊ะ แถมๆ สาวๆคนไหนที่ใช้มีดโกนกันคิ้ว ก็สามารถทาโฮบาล์มนี้เวลากันคิ้วได้นะ จะช่วยลดแรงเสียดสี ทำให้การกันคิ้วนุ่มนวลขึ้น ไม่ทำให้ผิวเสียด้วยค่ะ

☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆

สำหรับราคานั้นอยู่ที่ 13,000 วอน ก็ประมาณ 390 บาทค่ะ คาดว่าสินค้าจะเข้าไทยเร็วๆนี้แน่นอน แต่ถ้าใครสนใจก็ลองดูเว็บของ Stylenanda ได้เลยนะ 

special thanks to: sinmoonji13lovely_eni 🙂

อย่าลืมติดตามข้อมูลความงาม อัพเดทเทรนด์แฟชั่น รีวิวเครื่องสำอาง และการสอนแต่งหน้าได้ที่แฟนเพจเฟสบุคของบิวตี้ มีทส์ ไทยแลนด์ >> BEAUTYMEETS THAILAND

แล้วพบกันใหม่นะคะสาวๆ  xoxo, beautymeets!

[REVIEW] 3CE Stylenanda “Ho Balm” บาล์มสารพัดประโยชน์!