5 ครีมบำรุงผิว แนะนำโดยบิวตี้บล็อกเกอร์เกาหลีตัวแม่!

00

สาวๆ คนไหนที่กำลังมองหาครีมบำรุงผิวหน้าดีๆ ต้องรีบอ่านเลยนะตัวเธอ!

บิวตี้ มีทส์ ได้รวบรวมครีมบำรุงผิวที่บิวตี้บล็อกเกอร์เกาหลีตัวแม่อย่าง Dasha Kim, Meejmuse, Yeondukong etc. แนะนำมาให้สาวๆ ได้ลองมีไอเดียในการเลือกซื้อ ทั้งนี้ควรจะเทสผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับตัวเองด้วยนะจ๊ะ ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย!

Dr. Jart+ Ceramidin Cream

02

01

ครีมบำรุงเข้มข้นนี้มีส่วนผสมของเซรามายซึ่งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นอย่างเต็มที่ อีกทั้งแบรนด์ Dr. Jart+ ก็ได้รับความนิยมสุดๆ ในเกาหลี ขนาดบิวตี้บล็อกเกอร์อย่าง ดาช่า คิม ยังเลือกใช้เลย โดยเฉพาะตัวที่เป็นครีมแบบหลอด แต่ก็แนะนำด้วยว่าสาวผิวมันอาจต้องระวังเพราะอาจจะออยลี่เกินไป ดังนั้นลองดูแบบลิควิดที่เป็นขวดที่เนื้อครีมจะมีความเบากว่า (Ceramidin Cream ราคา 2090 บาท / Ceramidin Liquid ราคา 1790 บาท)

Klairs Midnight Blue Calming Cream

04

03

ต่อมาเป็นครีม Klairs Midnight Blue Calming Cream แนะนำโดยบิวตี้บล็อกเกอร์สุดน่ารัก “ยอนดูคง” ครีมนี้เป็นแบรนด์จากเกาหลี มีเนื้อเข้มข้น กลิ่มอโรม่าทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เนื้อครีมเป็นสีฟ้าด้วย แปลกดีแต่ใช้แล้วจะทำให้ผิวชุ่มชื้นและแต่งหน้าติดทนนานมากขึ้น (24.50USD)

Belif The True Cream Aqua Bomb

06

05

อีกหนึ่งครีมที่เหมาะกับสาวผิวมันคือ Belif The True Cream Aqua Bomb แนะนำโดย เจนนิเฟอร์ หรือ Meejmuse เนื้อครีมเป็นเจล แต่ให้ความชุ่มชื้นได้เต็มที่ ทำให้ผิวหน้ารู้สึกสดชื่น ใช้เป็นเดย์ครีมก็ดีเลิศเลอ (ราคา 1229 บาท)

illi Ceramide Ato Cream

07

08

เป็นอีกหนึ่งครีมสายเกาหลีที่พลาดไม่ได้จริงๆ แบรนด์ illi (อิลลี) นี้มีดาราตัวแม่อย่างจอนจีฮยอนเป็นพรีเซ็นเตอร์ เนื้อครีมบำรุงชุ่มชื้นอย่างดี เรียกได้ว่าไม่ต้องใช้ตัวบำรุงอื่นเพิ่มเติมให้เยอะแยะเลย บิวตี้ บล็อกเกอร์ คิมดายอง ใช้บำรุงก่อนนอนเป็นประจำค่ะ หากใครได้ไปเที่ยวเกาหลีต้องแวะซื้อที่ร้าน ARITAUM หรือไม่ก็จัดพรีออเดอร์กันได้เลย (ราคา 28000 วอน หรือประมาณ 890 บาท)

AVENE Cicalfate Repair Cream

10

09

ใครมีสิว ผิวพัง ฟังทางนี้เลยจ้า ครีมตัวนี้การันตีโดยสาวเกาหลีและบิวตี้ยูทูปเบอร์สุดฮ็อตอย่าง เจนนี่ ครัช ก็ยืนยันด้วยตัวเองเลยว่าสามารถพิชิตความพังของผิวได้ภายในข้ามคืน เนื้อครีมเข้มข้น แต่สาวผิวมันก็พอจะใช้ได้อยู่นะ ใครที่ผิวมีปัญหาเรื่องสิว รอยแดง ต้องลองเลยค่ะ (ราคา 1426 บาท)

อย่าลืมติดตามข่าวสารเกี่ยวกับความงาม แฟชัน สุขภาพ เครื่องสำอาง ส่งตรงจากเกาหลีเพื่อสาวไทยได้ทาง บิวตี้ มีทส์ ไทยแลนด์ นะคะ

5 ครีมบำรุงผิว แนะนำโดยบิวตี้บล็อกเกอร์เกาหลีตัวแม่!

มาสร้างผิวโกลวทั้งใบหน้าและลำตัว สวยสู้หน้าร้อนกันเถอะ!

00

HELLO PRETTIES!

ช่วงนี้อากาศบ้านเรามันช่างร้อนระอุ เดินข้างนอกแทบจะไม่ได้ แดดแรงขนาดนี้ ทอดไข่น่าจะสุกเลยใช่ไหมละ! เชื่อเลยว่าสาวๆ หลายคนคงจะต้องโบกครีมกันแดด หรือไม่ก็ขอจำศีลในห้องแอร์เสียดีกว่า เอาล่ะๆๆ ถึงเวลามาเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส ในเมื่อซัมเมอร์ไทยแลนด์มันช่างฮ็อตขนาดนี้ เรามาสร้างลุคสวยให้เข้ากับบรรยากาศกันหน่อยดีไหม

01

หลายคนคงเคยเห็นหรือได้ยินเทรนด์ผิวสวยอย่าง Sun-kissed skin กันใช่ไหม?  มันช่างเป็นเทรนด์ที่งดงามและเซ็กซี่สุดๆ เป็นการเน้นความโกลวของผิว มีความแทนหรือบรอนซ์นิดๆ ราวกับแสงแดดได้จุมพิศบนผิวสวยๆของเรา (เล่นใหญ่มาก) วันนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีการแต่งหน้าและผิวให้ดูมีความวาวและมีมิติ อีกทั้งทำให้ดูผอมเพรียวลงด้วยนะ

ขอบคุณข้อมูลจากบิวตี้ บล็อกเกอร์ Dasha Kim

ใครอยากดูเป็นคลิปก็ คลิ๊ก! ได้เลย

เครื่องสำอางที่ใช้ครั้งนี้ทั้งหมดมาจาก Benefit
Hello Flawless Oxygen Wow Foundation
Hello Flawless Powder
Dew The Hoola
Shy Beam
Hoola Box O’Powder
Browzing Kit
High Brow
They’re Real Push-Ip Liner
BADgal Waterproof Mascara
Chacha Tint
Chacha Balm
Hoola Zero Tanlines Body Bronzer
Sun Beam

มาเริ่มกันเลย!

02ก่อนอื่น ลงรองพื้นให้ทั่วใบหน้าและลำคอ

03

จากนั้นใช้ครีมคอนทัวร์ปาดลงโหนกแก้ม คาง ขอบหน้าผาก ข้างสันจมูก รวมไปถึงกระดูกลำคอด้วยค่ะ

04

ตามด้วยลงไฮไลท์บริเวณหน้าผาก สันจมูก ใต้ตา เหนือริมฝีปากและคางค่ะ

05

ใช้ฟองน้ำเบลนด์ไฮไลท์ก่อนเลย อย่าถูเด็ดขาดลยนะ ให้ใช้วิธีกดๆ แตะๆ ค่ะ จะดูโกลวอย่างเป็นธรรมชาติ 

06

แล้วตามด้วยการเบลนด์คอนทัวร์

07

จากนั้นเซ็ตเมคอัพด้วยแป้งฝุ่นผสมรองพื้นค่ะ

08

ใช้บรอนเซอร์แบบฝุ่นลงบริเวณที่คอนทัวร์ไว้แล้ว เพื่อให้ผิวดูสุขภาพดียิ่งขึ้น

09

ใช้บรอนเซอร์ตัวเดียวกันไล้ข้างสันจมูกและเพิ่มมิติให้กับเปลือกตาด้วยค่ะ

10

วาดคิ้วกันเลยค่ะ งานฝรั่งต้องมานะ เขียนให้เส้นโก่งๆหน่อย

11

ใช้ดินสอไฮไลท์สีขาวมุกในการไฮไลท์โหนกคิ้วค่ะ จะทำให้ลุคดูเฉี่ยว คม และเป๊ะปังยิ่งขึ้นเลยนะ

12

ส่วนงานตานั้นง่ายมาก กรีดอายไลน์เนอร์ให้คมๆเก๋ๆ ก็พอแล้วค่ะ

13

โอ๊ะ! ปัดมาสคาร่าหน่อยนึงก็ได้ ขนตาจะได้ปังๆ ยิ่งขึ้น

14

ลุคนี้งานปากเราจะไม่เล่นใหญ่ค่ะ ใช้ทินท์สีส้มทาลงด้านในแล้วเกลี่ยให้เป็นธรรมชาติ

15

และถ้าอยากได้ปากกลอสซี่น่าจุ๊บ ทาลิปบาล์มซ้ำอีกครั้งก็เก๋ไปอีกค่ะ

16

17

งานใบหน้าเสร็จไปแล้ว เราจะมาแปลงโฉมให้กับผิวกายบ้างค่ะ ใช้แทนไลน์บรอนเซอร์ทาลงบริเวณ ไหล่ แขน ขา และเหนือเนินอก ทำให้ผิวบ่มแดดเป็นธรรมชาติ

18

จากนั้นใช้ไฮไลท์สีบรอนซ์โกลด์แต้มบริเวณไหปลาร้าและหัวไหล่

19

เกลี่ยให้ได้งานผิวผ่องราวกับนางเงือกผุดออกมาจากมหาสมุทรกันเลยทีเดียว

 21

22

20

เท่านี้ก็ได้ลุคสวยไว้สะกดทุกสายตากันแล้วจ้า

อย่าลืมติดตาม BEAUTYMEETS THAILAND เพื่ออัพเดทเทรนด์แฟชั่น ความงาม รีวิวเครื่องสำอางกันนะคะ XD

xoxo, beautymeets

มาสร้างผิวโกลวทั้งใบหน้าและลำตัว สวยสู้หน้าร้อนกันเถอะ!

5 เทคนิคเด็ด! รักษาสิวให้หน้าใสแบบสาวเกาหลี

มาแล้วตามคำขอ! บิวตี้ มีทส์ หอบหิ้ววิธีและผลิตภัณฑ์ที่สาวๆเกาหลีใช้รักษาสิวเพื่อที่สาวไทยจะได้ลองนำเทคนิคไปใช้กันได้ด้วย แต่อย่าลืมนะว่าผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน เวลาจะเลือกผลิตภัณฑ์อะไรก็ต้องดูให้เหมาะสมกับผิวตัวเองด้วยนะจ๊ะ งั้นเราไปดู 5 เทคนิคเด็ดกันเลยดีกว่า!

00

1) เช็ดเครื่องสำอางด้วย Cleansing Water ที่มีส่วนผสมของน้ำมันต้นชา

01

วิธีเลือกคลีนซิ่งวอเตอร์ที่ดี ควรจะมีส่วนผสมของ Tea Tree (น้ำมันจากต้นชา) อยู่ด้วยค่ะ เพราะทีทรีออยล์นี้ช่วยรักษาสิวได้เป็นอย่างดีเลย อย่างที่เกาหลีก็มีหลากหลายแบรนด์ให้เลือก แบรนด์ที่ทำคะแนนได้ดีก็จะเป็น The Saem Healing Tea Garden Tea Tree Cleansing Water เหมาะมากกับสาวผิวมัน อย่าลืมว่าถ้าวันไหนแต่งตาแต่งปากหนัก ก็ต้องใช้ Lip & Eye Remover ด้วยนะจ๊ะ ไม่งั้นเครื่องสำอางสะสมค้าง ผิวเสียยิ่งกว่าเดิมอีกนา

2) ล้างหน้าเสร็จไม่พอ ต้องเช็ดด้วยโทนเนอร์เสมอ

02

อย่างทีทุกคนทราบกันดี การบำรุงผิวของสาวเกาหลีนั้นละเอียดหลายขั้นตอนมาก การเช็ดผิวด้วยโทนเนอร์หลังจากล้างหน้าก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญสุดๆ เพราะจะช่วยเช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ยังตกข้างบนผิว อีกทั้งช่วยกระชับรูขุมขนด้วย สำหรับโทนเนอร์ที่แนะนำโดยบิวตี้บล็อกเกอร์อย่าง Jenny Crush ก็คือ URIAGE Hyseac Cleansing Water ซึ่งเหมาะกับสาวผิวมัน สามารถใช้เทคนิคโดยการหยดโทนเนอร์ลงบนสำลี แล้วแตะให้ชุ่มๆบนบริเวณที่เป็นสิวผื่น ใช้ไปสักพักจะเห็นผลทันทีว่าสิวผดผื่นจะหายจางลง

อีกไอเท็มหนึ่งที่ฮฺ็อตฮิตสุดๆในปีนี้คือ COSRX One Step Pimple Clear Pad ซึ่งเป็นเหมือนแผ่นทำความสะอาดผิว ข้างในกระปุกจะมีแผ่นสำลีบางๆชุ่มน้ำที่ช่วยกำจัดสิว หลังจากล้างหน้าเสร็จแล้ว สาวๆเกาหลีหลายคนก็จะใช้แผ่นนี้แหละ เช็ดให้ทั่วหน้าเบาๆเลย ถ้าใครอยากดูรีวิวก็ต้องติดตามกันที่ บิวตี้ มีทส์ เฟสบุคเพจ นะจ๊ะ!

3) มาส์กหน้าก็สำคัญ!

03

การมาส์กหน้าเป็นเหมือนหนึ่งในกิจวัตร แทบทุกวันของสาวๆ เกาหลีเลยก็ว่าได้ ถ้าช่วงไหนที่ผิวค่อนข้างพัง ก็มักจะเลือกมาส์กหน้าที่มีส่วนผสมของทีทรี อย่างแบรนด์ Mediheal และ Innisfree ก็ถือว่าขึ้นชื่อพอสมควรเลย หรืออีกสูตรหนึ่ง (ซึ่งแพงขึ้นมาหน่อย) ก็จะเป็น มาดิคาสโซไซด์ (madecassoside) ซึ่งเป็นสารที่พบในใบบัวบก ช่วยสมานแผลได้เป็นอย่างดี หนึ่งสัปดาห์ควรมาส์กหน้าประมาณ 3-4 ครั้ง จะเห็นผลเมื่อทำต่อเนื่องค่ะ ดังนั้นเวลาสาวๆ ซื้อมาส์กหน้าไปลอง หากจะให้เห็นผลจริงก็ควรซื้อสัก 4 แผ่นขึ้นไป (สูตรเดียวกันนะ) แล้วใช้อย่างต่อเนื่อง จะดีที่สุดเลยจ้า

4) เลือกครีมบำรุงผิวให้เหมาะสม

04

ในส่วนของครีมนั้น Dr.Jart+ (ด็อกเตอร์จาร์ต) ซึ่งเป็นแบรนด์เวชภัณฑ์ของเกาหลี ก็โด่งดังมากในส่วนของครีม Ceramidin Cream ครีมตัวนี้ทั้งสาวไทยและสาวเกาหลียืนยันว่าใช้แล้วผิวดีขึ้น สิวหายน้อยลง ด้วยส่วนผสมของเซราไมด์ช่วยทำให้ผิวแข็งแรง ปกป้องสิ่งสกปรก อีกทั้งช่วยลดการสูญเสียของน้ำอีกด้วย แต่ถ้าใครอยากมองหายี่ห้ออื่น ก็แนะนำ Nature Republic Help Ceramide Cream หรือแบรนด์อื่นที่มีส่วนผสมคล้ายๆกันค่ะ

5) ใช้แผ่นแปะสิว ป้องกันสิ่งสกปรก

05

แผ่นแปะสิว หรือ Spot Patch เป็นไอเท็มที่คนเกาหลีนิยมใช้กันมากค่ะ แบรนด์ชื่อดังอย่าง Etude House ก็มีแผ่นแปะสิว AC Clinic Intense Pink Powder Spot Patch ที่เรียกได้ว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่า อย่างสาวไทยก็น่าจะคุ้นเคยกับแบรนด์ Nexcare กันใช่ไหมเอ่ย? ที่เกาหลีก็ฮิตไม่แพ้กัน วิธีใช้แผ่นแปะสิวหรือแผ่นซับสิวนี้ สามารถแปะบริเวณหัวสิวแล้วก็ออกจากบ้านได้เลย เพราะจะช่วยปกป้องสิ่งสกปรกที่อาจจะทำให้สิวยิ่งอักเสบมากขึ้น อีกทั้งทำให้ใบหน้าดูน่ามองขึ้น เพราะมีแผ่นปกปิดสิวไว้นี่เอง ลองไปเลือกดูกันได้เลยนะจ๊ะ

อย่าลืมติดตามเพจเฟสบุคบิวตี้มีทส์ ไทยแลนด์ เพื่ออัพเดทเทรนด์แฟชั่น การแต่งหน้า รีวิวเครื่องสำอาง ส่งตรงจากเกาหลีด้วยนะคะ  >> BEAUTYMEETS THAILAND FANPAGE

5 เทคนิคเด็ด! รักษาสิวให้หน้าใสแบบสาวเกาหลี

บอกต่อ! วิธีทำความสะอาดผิวฉบับสาวเกาหลี

วันนี้บิวตี้ มีทส์ มีวิธีเด็ดในการล้างเครื่องสำอาง ทำความสะอาดผิว แบบฉบับสาวเกาหลีมาฝากกันค่ะ! ซึ่งวิธีนี้จะรวมถึงการเช็ดเครื่องสำอาง การใช้แปรงทำความสะอาดผิวหน้า เหมาะสำหรับวันที่ต้องเผชิญกับฝุ่นและมลพิษเยอะ (คาดว่าสาวไทยจะเข้าใจได้ดี) งั้นเราไปเริ่มกันเลยไหมคะ?!

ข้อมูลดีๆ แบ่งปันโดย บิวตี้บล็อกเกอร์สาวเกาหลีคนสวย SangAhTube (ซังอา) 

01

ก่อนอื่นก็ต้องเริ่มจากการล้างเครื่องสำอางค่ะ เอาล่ะ เริ่มด้วยการใช้ Lip & Eye Remover เพราะเครื่องสำอางที่ใช้บริเวณดวงตาและริมฝีปากนั้นต้องล้างให้สะอาดเป็นพิเศษ ต้องใช้รีมูฟเวอร์นะ แค่ cleansing water ทั่วไปอาจจะเอาไม่อยู่ หยดให้ชุ่มทั่วสำลี (ผลิตภัณฑ์ที่ใช้คือ LANEIGE Lip & Eye Remover Waterproof)

02

จากนั้นกดลงบนดวงตาแช่ไว้ประมาณ 5 นาที แล้วค่อยๆขยับนิ้ว คลึงๆ ให้เครื่องสำอางไหลออกหมดจด อย่าลืมเช็ดคิ้วและลิปสติกด้วยนะคะ

03

ในส่วนของรองพื้น ให้ใช้คลีนซิ่งวอเตอร์ในการเช็ดทำความสะอาด เขาว่ากันว่าคลีนซิ่งออยล์จะเหมาะกับวันที่แต่งหน้าแบบจัดเต็ม เมคอัพหนาๆ แต่ถ้าจะทำความสะอาดเมคอัพในทุกวันใช้แบบน้ำจะอ่อนโยนต่อผิวมากกว่าค่ะ

04

ล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ-อุ่นเลยจ้า

จากนั้นเราจะมาสู่ขั้นตอนการล้างหน้ากันค่ะ

06

เริ่มด้วยการบีบโฟมล้างหน้าลงใยขัดผิว แล้วถูๆๆให้เกิดฟอง เราจะใช้แปรงทำความสะอาดผิวในการล้างหน้าค่ะ

07

ฟองยิ่งฟุ้งมากแค่ไหน ก็สามารถทำความสะอาดได้ดียิ่งขึ้นค่ะ ถูๆๆ ต่อไปเรื่อยๆ

05

นี่คือแปรงทำความสำอาดผิวที่จะใช้ค่ะ! เป็นของ MAKEON เขาว่ากันว่าใช้ง่ายและคุณภาพดีทีเดียวเลย วิธีใช้ง่ายๆ ก็คือ กดครั้งที่ 1 – Low หรือจะหมุนด้วยความแรงต่ำสุด ครั้งที่ 2 – High และครั้งที่ 3 เป็นระบบนวดค่ะ

08

กลับมาที่การตีโฟม พอได้ปริมาณพอสมควรแล้ว เราก็จะป้ายลงบนหน้าแบบนี้ค่ะ

09

อย่าลืมป้ายโฟมลงบนหัวแปรงด้วยนะ จะได้นุ่มๆ ขึ้น

10

กดปุ่มความแรง 2 ครั้ง (High) แต่ถ้าวันไหนรู้สึกว่าผิวค่อนข้างบอบบางก็แค่หนึ่งครั้งก็ได้ค่ะ จากนั้นเริ่มจากหน้าผากก่อนเลยนะ ทำความสะอาดโดยหมุนวนๆ แบบนี้ค่ะ

11

ตามด้วยส่วนจมูกค่ะ ประมาณ 20 วินาที

12

รวมถึง V Line หรือกรอบใบหน้าด้วยค่ะ สำคัญมากเลยน้า เพราะสาวๆ หลายคนลืมใส่ใจกับบริเวณข้างๆ ทำความสะอาดประมาณ 20 วินาทีนะคะ

13

จากนั้นบริเวณหน้าแก้ม ข้างละ 10 วินาทีค่ะ

14

ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น จากนั้นยังไม่ต้องเช็ดน้ำออกจากผิวนะ ให้เปลี่ยนหัวแปรงเป็นหัวแบบนวด จากนั้นยกกระชับใบหน้าบริเวณคางขึ้นไปค่ะ ช่วยสร้างใบหน้าเรียวสวยๆ ได้เลย

15

และท้ายสุด อย่าเช็ดหน้าด้วยผ้าขนหนูหรือทิชชู่นะ ใช้มือค่อยๆ ตบๆ จนผิวแห้ง เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการทำความสะอาดในทุกวันแล้วค่า 🙂

อย่าลืมติดตามเพจเฟสบุคบิวตี้มีทส์ ไทยแลนด์ เพื่ออัพเดทเทรนด์แฟชั่น การแต่งหน้า รีวิวเครื่องสำอาง ส่งตรงจากเกาหลีด้วยนะคะ  >> BEAUTYMEETS THAILAND FANPAGE

บอกต่อ! วิธีทำความสะอาดผิวฉบับสาวเกาหลี

10 ขั้นตอนบำรุงผิวฉบับสาวเกาหลี (เป๊ะจริงอะไรจริง!)

01

ถ้าใครเคยไปเที่ยวเกาหลีหรือเคยเห็นสาวๆเกาหลีเวลามาเที่ยวเมืองไทย จะรู้ว่าผิวหน้าของแทบทุกคนสวยวิ๊งบลิงๆใสๆมาก มันก็จริงอยู่ที่อากาศเกาหลีดีกว่าเมืองไทย (ดีกว่าก็คือเย็นกว่า แดดไม่แรง หน้าไม่พัง) แต่จริงๆแล้วชะนีเกาหลีก็ต้องใช้ความพยายามอันใหญ่หลวงเพื่อดูแลผิวให้ดีเลิศ

และวันนี้บิวตี้ มีทส์ ก็อยากนำข้อมูลดีๆเกี่ยวกับ 10 ขั้นตอนของการบำรุงผิวฉบับสาวเกาหลี โห! แค่ฟังก็อึ้งแล้วเนอะ อะไรมันจะเยอะขนาดนั้น แต่นี่แหละคุณ อยากสวยก็ต้องลงทุน เอ้อ บอกไว้ก่อนนะว่าแต่ละสเต็ปไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องสำอางยี่ห้อเกาหลีเลย แค่ใช้ประเภทเดียวกันก็ได้ แล้วก็ใครที่จะลองวิธีนี้ อาจจะต้องค่อยๆ ลองของใหม่ไปทีละครั้ง ไม่ใช่ว่าซื้อใหม่ทั้งเซ็ทแล้วโบกทีเดียวเลยนะคะ (เดี๋ยวผิวช็อคและเกิดแพ้ขึ้นมาจะยุ่ง) สมมติอาทิตย์นี้ลองใช้โทเนอร์ยี่ห้อใหม่ ก็ลองใช้สักอาทิตย์หนึ่งก่อน อาทิตย์หน้าถึงเริ่มใช้อายครีมยี่ห้อใหม่ ฯลฯ กิจวัตรการบำรุงผิวนี้อาจฟังดูเหมาะสำหรับสาวที่ทุนทรัพย์เยอะแต่ก็ประยุกต์ทำบางขั้นตอนที่สามารถก็ได้จ้า อีกทั้งไม่จำเป็นต้องทำซะทุกวันนะ เอาล่ะ  ไปดูกันเลยโนะ!

02

1) ล้างเครื่องสำอาง

ขั้นตอนแรกเริ่มสุดคือการลบเครื่องสำอางให้หมดจดจากใบหน้าค่ะ เมคอัพรีมูฟเวอร์ประเภทออยล์ได้รับความนิยมมาก เพราะไม่ต้องใช้สำลีหรือทิชชู่ แถมยังล้างง่าย เพียงแค่หยดลงมือ ถูทั่วใบหน้า แล้วล้างออกด้วยน้ำ ตัวที่ใช้ดีก็มี Hanyul Pure Artemisia Cleansing Oil ฮันยูลเป็นแบรนด์เกาหลีที่ได้รับความนิยมมากเพราะมีส่วนประกอบจากธรรมชาติ เช่น สมุนไพรต้นตำรับจากเกาหลี อีกอย่างที่แนะนำคือ Banila Co Clean It Zero เป็นบาล์มเช็ดเครื่องสำอางที่เปลี่ยนตัวเป็นออยล์ได้ สำหรับแบรนด์ที่หาซื้อง่ายในบ้านเราก็มี Biore Cleansing Oil ค่ะ แอดมินใช้เองก็รู้สึกว่าดีมากเลย

03

2) ล้างหน้า

สาวเกาหลีก็เหมือนสาวไทยคือนิยมใช้โฟมล้างหน้าค่ะ ที่อยากแนะนำคือ Biotherm Pure-fect Cleanser เหมาะมากสำหรับสาวๆที่มีผิวมันและเป็นสิว อีกอย่างคือ Laneige Multi Cleanser ใช้ดีเหมือนกันค่ะ รู้สึกผิวสะอาดขึ้นแบบจริงๆ ขั้นตอนล้างหน้านี้สำคัญมากนะ บางคนล้างเครื่องสำอางแล้วล้างน้ำเปล่าอย่างเดียว ไม่ได้เลยนะจ๊ะ เพราะโฟมจะช่วยขจัดความมันและสิ่งสกปรกตกค้างให้หายไป ก็เลือกให้เหมาะกับผิวของแต่คนละกันเนอะ

04

3) เช็ดด้วยโทนเนอร์

การใช้โทนเนอร์จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่หลงเหลือให้หมดสิ้นไป บางทีล้างหน้าแล้ว แต่พอเช็ดด้วยโทนเนอร์ (หยดโทนเนอร์ลงบนสำลีแล้วเช็ดผิว) ก็ยังคงเห็นคราบอยู่ ดังนั้นวิธีนี้สำคัญมากค่ะ ไม่ควรละเลย การใช้โทนเนอร์ยังเป็นการเตรียมผิวให้พร้อมรับครีมบำรุงด้วยนะ มีโทนเนอร์ที่แนะนำก็คือ Biotherm Pure-fect Toner ซึ่งมาเป็นเซ็ทเดียวกันกับโฟมที่ช่วยปรับผิวมันเป็นสิวให้ดีขึ้น อีกตัวคือ Hanyul Rice Skin Softener อันนี้ฮิตสุดในเกาหลี ผิวนุ่มนิ่ม

05

4) ผลัดเซลล์ผิว

ขั้นตอนนี้ก็สำคัญค่ะ ควรทำอย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อเป็นการกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว การผลัดเซลล์ผิวมีหลายวิธี เช่น สครับ มาส์กโคลน พอกหน้าด้วยพีลลิ่งมาส์ก ซึ่งจะทำให้ผิวสะอาดและนุ่มนวลขึ้นทันที มาส์กโคลนของอินนิสฟรี (Innisfree Volcanic Pore Clay Mask) อันนี้ดีงามค่ะ ทำให้รู้สึกเย็นๆบนผิว ยิ่งเหมาะกับอากาศเมืองไทย อีกทั้งทำความสะอาดรูขุมขนได้ดี

06

5) บำรุงด้วยเอสเซ้นส์

Essence หรือที่คนไทยชินกับคำว่า “น้ำตบ” ก็สำคัญมากกับผิวเช่นกันค่ะ ช่วยให้ผิวกระชับและกระจ่างใสขึ้น สาวเกาหลีก็ให้ความกับเอสเซ้นส์มาก ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมก็หนีไม่พ้น SK-II Essence ใช้ได้ดีทั้งผิวผู้ชายและผู้หญิงเลยค่ะ

07

6) ทาผิวด้วยเซรั่ม

เซรั่มส่วนใหญ่บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นขึ้นค่ะ แต่เนื้อจะไม่หนืดและหนาเท่าครีมมอยซ์เจอร์ เนื้อจะค่อนข้างเบาบาง ที่ใช้ดีแล้วต้องแนะนำคือ Innisfree Green Tea Seed Serum คาดว่าทุกคนเคยได้ยินกันมาเนอะ

08

7) บำรุงด้วยมอยซ์เจอร์ไรเซอร์

moisturizer หรือครีมบำรุงความชุ่มชื้นคาดว่าทุกคนต้องใช้กันเป็นประจำอยู่แล้ว รวมไปถึงพวกอิมัลชั่น (emulsion) ด้วยค่ะ สเต็ปนี้ก็ขาดไม่ได้ เป็นเหมือนพื้นฐานของการดูแลผิวเลยก็ว่าได้นะ สำหรับคนที่มีผิวมันลองเลือกอิมัลชั่นเพราะเนื้อจะข้นน้อยกว่าครีม ตัวนี้ก็ดีนะ IOPE Moistgen Emulsion Skin Hydration ส่วนสาวๆที่มีผิวแห้งก็อาจจะต้องดูเป็นครีม (แต่บางทีอากาศบ้านเรามันร้อน ใช้อิมัลชั่นสำหรับตอนกลางวันก็ไหวอยู่)

09

8) ไนท์ครีมและสลีพมาส์ก

เป็นการบำรุงแบบจัดเต็มเพื่อผิวใสวิ๊งๆเวลาตื่นมาค่ะ สลีพมาส์กที่ดังๆก็มี Laneige Water Sleeping Mask รวมถึงใช้แล้วดีก็มี Banila Co The Dream Cream Pure White Moisturizer และ Hanyul Sleep Pack อีกด้วย แต่สาวเกาหลีบางคนก็ชอบมาส์กหน้าแบบเป็นแผ่นๆ สัก 10-20 นาทีก่อนเข้านอนด้วยนะ เทคนิคคือนำมาส์กไปแช่ตู้เย็นไว้ พอมาแปะแล้วจะเย็นๆดีสุดๆเลยอ่ะ วิธีนี้แนะนำค่ะ

10

9) ดูแลผิวรอบดวงตาด้วยอายครีม

หลายคนอาจจะยังไม่ได้ใส่ใจกับขั้นตอนนี้นักโดยเฉพาะสาวๆที่ยังอายุน้อย แต่ถ้าเริ่มเข้าใกล้ยี่สิบปลายๆแล้วล่ะก็ อาจจะต้องพิจารณากันหน่อยเนอะ อายครีมจะช่วยลดรอยตีนกา รอยคล้ำใต้ตา รอยเหี่ยวย่นรอบดวงตา แนะนำตัวนี้เลย SK-II Eye cream

11

10) ทาครีมกันแดด

อันนี้อาจจะไม่ต้องถึงขั้นทาก่อนนอน แต่ก่อนออกจากบ้านได้โปรดอย่าลืมค่ะ เพราะผิวเราโดนแสงอาทิตย์ได้เสมอ แสงอาจจะเข้ามาทางหน้าต่างที่โรงเรียน หรือออฟฟิศ หรือขณะขับรถ ป้องกันไว้ก่อนก็ดีเนอะ จะได้รักษาผิวหน้าให้สวยไปนานๆ

และทั้งหมดก็เป็น 10 ขั้นตอนสุดอลังการของการดูแลผิวสไตล์สาวเกาหลี ขอบคุณข้อมูลจากบิวตี้กูรูสาวเกาหลีอเมริกัน Beautifymeeh (ดูคลิปเต็มของชี คลิ๊กเลย!) สาวไทยอย่างเราก็ลองอ่านไปปรับใช้กันดูได้ค่ะ ไม่ถึงขั้นต้องครบเครื่องก็ได้นะ ดูไว้เป็นไอเดีย และอย่าลืมว่าสิ่งสำคัญที่สุดเพื่อผิวสวยคือการพักผ่อนและทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะการดื่มน้ำและวิตามิน นะจ๊ะ♥♥♥

ถ้าเพื่อนๆ มีข้อสงสัยเกี่ยวกับเครื่องสำอางเกาหลีหรือเทคนิคดูแลตัวใดใด แวะมาถามบิวตี้ มีทส์ ทางเฟสบุคแฟนเพจได้เลย >> BEAUTYMEETS THAILAND FACEBOOK

เลิฟสาวๆทุกคน,  xoxo, beautymeets

10 ขั้นตอนบำรุงผิวฉบับสาวเกาหลี (เป๊ะจริงอะไรจริง!)

10 เทคนิคดูแลตัวเองให้สวยปัง! แม้ช่วงสอบก็ไม่หวั่น!

00

สวัสดีสาวๆ! บิวตี้มีทส์คนเดิมเพิ่มเติมคือความสวย กลับมาอีกแล้วค่ะ❤️ #โดนผู้อ่านตบหน้า

อ่ะอย่าเพิ่งกดปิดหน้าจอกันไปนะๆๆ วันนี้เจ้นำเทคนิคที่มีประโยชน์ต่อชีวิตและวงหน้าของสาวๆทุกคนมาฝากกัน เพราะเทคนิค 10 ประการที่เจ้กำลังจะมาเล่าให้ฟังเนี่ยสามารถเอาไปใช้ได้จริงเพื่อที่จะดูแลความงามและสุขภาพโดยเฉพาะช่วงอ่านหนังสือสอบหรือโหมงานหนัก! หลายคนเป็นใช่ไหม? พอช่วงสอบทีไรก็ปล่อยให้ตัวเองดูโทรม หน้าก็ไม่มีเวลาจะแต่ง มาส์กก็ไม่มีวันจะโปะ Nooooo! ผู้หญิงต้องอย่าหยุดสวย ดังนั้นไปดูเทคนิคง่ายๆกันเลยไหมจ๊ะ?

1) ดื่มน้ำเยอะๆ พกเป็นกระบอกหรือขวดน้ำก็ได้ แต่น้ำดื่มไม่ควรขาดมือ!

01

มนุษย์ทุกคนรู้ถึงประโยชน์อันยิ่งใหญ่ของน้ำที่มีต่อร่างกายของเราอย่างดี แต่หลายคนมักไม่ได้ดื่มน้ำมากเพียงพอ (ก็คือดื่มแค่ตอนกินข้าวหรือตอนกระหายน้ำเท่านั้นแหละ) จริงๆแล้วร่างกายของเราต้องการน้ำถึง 2 ลิตรต่อวัน (ประมาณ8แก้ว) แต่เอาเถอะ บางทีเราก็ไม่อยากเสียเวลามานั่งนับ ดังนั้นขอแนะนำเทคนิคสำหรับใครที่อยู่ในช่วงอ่านหนังสืออย่างเคร่งเครียด ให้จัดเวลาอ่านหนังสือโดยอ่านต่อเนื่อง 50 นาที และพักสมองเป็นเวลา 10 นาที แล้วตอนพักนี่แหละก็จัดน้ำไปซักแก้วให้ชื่นใจ ทำเป็นนิสัยก็ดีเลยนะ ระบบขับถ่ายจะดีขึ้น ผิวพรรณก็ผ่องใส

2) Power Nap อันทรงพลัง!

02

เคยได้ยินเกี่ยวกับ “พาวเวอร์ แน็พ” กันใช่ไหมเอ่ย? มันก็คือการงีบน่ะแหละ แต่ไม่ใช่เป็นชั่วโมงๆนะ! ระหว่างการอ่านหนังสือ ถ้ารู้สึกว่าง่วงสุดๆไปเลยเห้ย อีกห้าวิชั้นขาดใจแน่นอน ก็ต้องจัดพาวเวอร์แน็พไปซะหน่อย ไปนอนพักซะหนูน้อย แต่ให้เวลาแค่ 15-20 นาทีเท่านั้นนะ! ตั้งนาฬิกาปลุกไว้เลย ตื่นมาแล้วจะพบว่ามันมหัศจรรย์มากๆ พลังงานจะกลับมา แต่ต้องสัญญากับตัวเองด้วยว่าห้ามเกินยี่สิบนาที เพราะไม่งั้นจะกลายเป็นหลับยาวแล้วตื่นมาอีกทีคือจะเหนื่อยและสลึมสลือมาก เทคนิคนี้เจ้เคยใช้ อยากบอกว่ามันดีงามชริงๆ

3) ใช้ความเย็นประคบตาที่เหนื่อยล้าให้กลับมาสดใส ❤️

03

อ่านหนังสือนานๆก็จะรู้สึกล้าๆเหนื่อยๆปวดตาก็เป็นธรรมดาอยู่ละ ยิ่งใครเป็นทาสคอนแทคเลนส์ด้วยละก็ โห เจ้เข้าใจความรู้สึกมาก มาลองวิธีนี้เลยค่ะ ใช้สำลีชุบน้ำเย็น (เน้นว่าเย็นนะ เอาแบบฉ่ำใจไหมพี่ไปเลย) จากนั้นเอามาแปะประคบไว้บนเปลือกตา นั่งรีแล็กซ์ไปจนมันหายเย็นอ่ะ (ประมาณ 5 นาที) ความสดชื่นก็จะกลับมา หน้าก็ไม่โทรมด้วย

4) บำรุงด้วยแตงกวา บอกลาหมีแพนด้า

04

การประคบตาด้วยแตงกว่าคงเป็นเรื่องที่ common สุดๆ จนทุกคนคงคิดว่า “พี่จะมาบอกหนูทำไมคะ” เห้ย แต่ก็มันดีจริงจนต้องย้ำอีก ขนาดบิวตี้บล็อกเกอร์ตัวแม่อย่าง Michelle Phan นางยังแนะนำเลยนะว่าถ้าอยากบอกลารอบคล้ำใต้ตา ต้องทำมาส์กแตงกว่าจริงๆ แต่เจ้มีเทคนิคเด็ดง่ายมาก คือฝานแตงกวาเป็นแว่นๆ แล้วเอาแช่ช่องฟรีซไว้เลย ทีนี้ก่อนนอน หรือเวลารู้สึกตาเหนื่อยๆล้าๆ ก็หยิบนางมาโปะตาไว้ นอกจากจะรู้สึกสดชื่นขึ้นแล้ว ตาน้องหมีแพนด้าก็จะได้ไม่มาถามหาอีกด้วยนะ

5) ฉีดน้ำแร่บำรุงผิวไว้สม่ำเสมอ

05

วิธีนี้ทำให้ผิวสดชื่นและเป็นการบำรุงได้อย่างฉับไว หากอ่านหนังสือไปสักพักแล้วรู้สึกล้าๆ ก็ลองหยิบสเปรย์น้ำแร่ หรือ facial mist มาเพิ่มความสดชื่นกันดู วิธีนี้เจ้ใช้เป็นประจำ โดยเฉพาะสาวๆที่มีผิวแห้งยิ่งต้องมีติดไว้เลย แต่ถ้าใครผิวมันก็ไม่ใช่ว่าใช้ไม่ได้นะ แนะนำให้ใช้กันเพราะมันก็คือการบำรุงผิว ไม่ได้เพิ่มความมันให้กับใบหน้านะเออ

6) ปรับบรรยากาศ ผ่อนคลายความตึงเครียด ด้วยกลิ่นหอมๆ❤️

06

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่ากลิ่นหอมๆก็มีผลต่อสมอง สภาพจิตใจ และการทำงานของเรา ถ้าใครอ่านหนังสือที่บ้านก็ลองจุดน้ำมันหอมระเหยหรือฉีดสเปรย์ปรับอากาศแบบพอดีๆ ให้กลิ่นมันฟุ้งๆ หอมๆ ว่าแต่ จะเลือกกลิ่นดีใช่มะ? เอาล่ะ เจ้จะบอกให้ ถ้าอยากเพิ่มสมาธิและปรับมู้ดให้ดีๆ อารมณ์ไม่เสีย ชะนีไม่เหวี่ยง ก็ลองกลิ่นเปปเปอร์มินต์หรือใบสะระแหน่ดูค่ะ เจ้ชอบอันนี้สุดๆ สดชื่นมาก แต่บางคนบอกกลิ่นเหมือนยาสีฟัน หรือจะลองกลิ่นอื่นอย่างส้มหรือมะนาว จะช่วยเพิ่ม energy หรืออีกสองกลิ่นที่แนะนำคือดอกมะลิและดอกลาเวนเดอร์ซึ่งจะช่วยลดความตึงเครียดค่ะ ใช้วิธีนี้จะช่วยให้ผ่อนคลายจากภายใน ภายนอกของเราก็จะสวยงามตามไปด้วยเลยค่ะ

7) ขยับร่างกายซะบ้าง!

07

นั่งอ่านหนังสือนานๆ ก็ต้องอย่าลืมยืดเส้นยืดสาย ให้ร่างกายได้ผ่อนคลายกันด้วยนะ จำได้ไหมที่บอกไปในข้อแรกว่า ให้ใช้หลัก อ่าน 50 นาที พัก 10 นาที นั่นแหละหนู ช่วงเวลาพักนั้น ก็ลองลุกขึ้นมาแกว่งแขน ยืดเส้นกันนะจ๊ะ หรือใครชอบอ่านหนังสือตามร้านกาแฟสตาบ๊งสตาบั๊กก็ลองออกไปเดินเล่นส่องหนุ่มๆ เอ้ย!! เดินเล่นเพื่อผ่อนคลายร่างกายกันดูนะ

 

8) บำรุงผิวก่อนนอนนั้นสำคัญมาก❤️

08

คืองี้ เจ้เข้าใจนะว่าช่วงอ่านหนังสือสอบทุกนาทีมันสำคัญไปโม้ด เวลานอนก็น้อย จะอ่านหนังสือแต่ละบทก็ต้องจัดเวลาให้ดีใช่ไหม แต่เจ้ก็อยากแนะนำว่าก่อนนอนลองโบก sleeping mask แล้วเข้านอนดู จะพบว่าความงามของผิวตอนตื่นมามันเลอค่ามากชริงๆ จะแนะนำบางตัวที่ใช้มาแล้วรู้สึกว่าดีให้ เช่น Laneige Water Sleeping Mask พี่คนนี้ดีงามพระรามแปดจริงๆ ตื่นมาผิวใสๆนิ่มๆ เลยอ่ะ ส่วนอีกอันหนึ่งขุ่นเพื่อนแนะนำมา Daiso Tofu Whitening Sleeping Pack เห้ยแก! ถูกและดีมีในโลก แต่อันนี้จะซึมเร็วมากๆ (มากกว่าลาเนจ) ซึ่งก็โอเค เหมาะกับอากาศเมืองไทยดีเลยแหละ หรือใครอยากลองยี่ห้ออื่นก็จัดไป

9) อย่าขี้เกียจแต่งหน้า!

12371064_1071632899538215_2980734375348291420_o

ฮื้อ อย่าเพิ่งเกลียดกันนะตัวเธอ ณ จุดนี้เจ้แค่เพียงจะสื่อว่า “อย่าปล่อยตัว ปล่อยหน้า ให้หมดสภาพไปหมด” ไม่ต้องลงรองพื้นเยอะๆ อย่างน้อยลงคอนซีลเลอร์หน่อยก็ได้นะ เขียนคิ้วก็เอาให้มันพอมีโครงมีสี เบาๆ เป็นธรรมชาติก็พอ ลิปมันก็พกติดไว้ ใช้แบบลิปมันมีสียิ่งดีนะ ริมฝีปากอย่าปล่อยให้แห้งกร้าน ดูแลตัวเองเถิดแล้วจะเกิดผลค่ะลูกกกก

(ใครอยากดูคลิปแต่งหน้ายามเช้าภายใน10นาที-ซับไทย คลิ๊กได้เลยจ้า!)

10) รักษาเวลานอน อย่านอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงเลย

09

ฮ่าๆๆ รูปนี้เอามาแปะให้ขำขันกันนะคะ❤️ จากประสบการณ์ส่วนตัวเมื่อตอนเจ้สอบเข้ามหา’ลัยเป็นช่วงที่หนักหนามาก เป็นหวัด ไอบ่อย จนกระทั่งไปซื้อยาแล้วได้คุยกับเภสัชกรท่านหนึ่งซึ่งแนะนำมาว่าควรนอนให้ได้ประมาณ 6 ชั่วโมงในแต่ละคืน ไม่งั้นร่างกายจะไม่มีเวลาได้พักผ่อน ภูมิต้านทานมันก็จะลด ตอนนั้นเลยใช้วิธีนอนสี่ทุ่มตื่นตีสี่มาอ่านหนังสือ (แต่ทำได้ไม่นานมาก เพราะรู้ตัวว่าไม่ใช่ morning person) แต่คิดว่าหลักการนี้ใช้ได้เสมอนะ ใครชอบอ่านหนังสือดึกหรือเช้าก็ตามแต่ก็ลองดู แต่เวลานอนไม่ควรน้อยกว่า 6 ชม. นอนน้อยก็มีผลต่อผิวหน้าด้วยนะเธอ ยังไงก็ลองปรับใช้กันดูจ้า

เจ้ก็หวังว่าบทความนี้คงจะมีประโยชน์แก่สาวๆวัยเรียนไม่มากก็น้อย หรือสาววัยทำงานด้วยนะคะ หากมีช่วงพีคที่งานเยอะมาก ก็อย่าปล่อยปละละเลยสุขภาพและความงาม เราต้องให้ออร่าของเราสวยจากภายในสู่ภายนอกเสมอค่ะคู้น (ปรบมือดังๆ)

 

รักและห่วงใยสาวๆเสมอ, beautymeets!

10 เทคนิคดูแลตัวเองให้สวยปัง! แม้ช่วงสอบก็ไม่หวั่น!