5 เทคนิคเด็ด! รักษาสิวให้หน้าใสแบบสาวเกาหลี

มาแล้วตามคำขอ! บิวตี้ มีทส์ หอบหิ้ววิธีและผลิตภัณฑ์ที่สาวๆเกาหลีใช้รักษาสิวเพื่อที่สาวไทยจะได้ลองนำเทคนิคไปใช้กันได้ด้วย แต่อย่าลืมนะว่าผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน เวลาจะเลือกผลิตภัณฑ์อะไรก็ต้องดูให้เหมาะสมกับผิวตัวเองด้วยนะจ๊ะ งั้นเราไปดู 5 เทคนิคเด็ดกันเลยดีกว่า!

1) เช็ดเครื่องสำอางด้วย Cleansing Water ที่มีส่วนผสมของน้ำมันต้นชา

วิธีเลือกคลีนซิ่งวอเตอร์ที่ดี ควรจะมีส่วนผสมของ Tea Tree (น้ำมันจากต้นชา) อยู่ด้วยค่ะ เพราะทีทรีออยล์นี้ช่วยรักษาสิวได้เป็นอย่างดีเลย อย่างที่เกาหลีก็มีหลากหลายแบรนด์ให้เลือก แบรนด์ที่ทำคะแนนได้ดีก็จะเป็น The Saem Healing Tea Garden Tea Tree Cleansing Water เหมาะมากกับสาวผิวมัน อย่าลืมว่าถ้าวันไหนแต่งตาแต่งปากหนัก ก็ต้องใช้ Lip & Eye Remover ด้วยนะจ๊ะ ไม่งั้นเครื่องสำอางสะสมค้าง ผิวเสียยิ่งกว่าเดิมอีกนา

2) ล้างหน้าเสร็จไม่พอ ต้องเช็ดด้วยโทนเนอร์เสมอ

อย่างทีทุกคนทราบกันดี การบำรุงผิวของสาวเกาหลีนั้นละเอียดหลายขั้นตอนมาก การเช็ดผิวด้วยโทนเนอร์หลังจากล้างหน้าก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญสุดๆ เพราะจะช่วยเช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ยังตกข้างบนผิว อีกทั้งช่วยกระชับรูขุมขนด้วย สำหรับโทนเนอร์ที่แนะนำโดยบิวตี้บล็อกเกอร์อย่าง Jenny Crush ก็คือ URIAGE Hyseac Cleansing Water ซึ่งเหมาะกับสาวผิวมัน สามารถใช้เทคนิคโดยการหยดโทนเนอร์ลงบนสำลี แล้วแตะให้ชุ่มๆบนบริเวณที่เป็นสิวผื่น ใช้ไปสักพักจะเห็นผลทันทีว่าสิวผดผื่นจะหายจางลง

อีกไอเท็มหนึ่งที่ฮฺ็อตฮิตสุดๆในปีนี้คือ COSRX One Step Pimple Clear Pad ซึ่งเป็นเหมือนแผ่นทำความสะอาดผิว ข้างในกระปุกจะมีแผ่นสำลีบางๆชุ่มน้ำที่ช่วยกำจัดสิว หลังจากล้างหน้าเสร็จแล้ว สาวๆเกาหลีหลายคนก็จะใช้แผ่นนี้แหละ เช็ดให้ทั่วหน้าเบาๆเลย ถ้าใครอยากดูรีวิวก็ต้องติดตามกันที่ บิวตี้ มีทส์ เฟสบุคเพจ นะจ๊ะ!

3) มาส์กหน้าก็สำคัญ!

การมาส์กหน้าเป็นเหมือนหนึ่งในกิจวัตร แทบทุกวันของสาวๆ เกาหลีเลยก็ว่าได้ ถ้าช่วงไหนที่ผิวค่อนข้างพัง ก็มักจะเลือกมาส์กหน้าที่มีส่วนผสมของทีทรี อย่างแบรนด์ Mediheal และ Innisfree ก็ถือว่าขึ้นชื่อพอสมควรเลย หรืออีกสูตรหนึ่ง (ซึ่งแพงขึ้นมาหน่อย) ก็จะเป็น มาดิคาสโซไซด์ (madecassoside) ซึ่งเป็นสารที่พบในใบบัวบก ช่วยสมานแผลได้เป็นอย่างดี หนึ่งสัปดาห์ควรมาส์กหน้าประมาณ 3-4 ครั้ง จะเห็นผลเมื่อทำต่อเนื่องค่ะ ดังนั้นเวลาสาวๆ ซื้อมาส์กหน้าไปลอง หากจะให้เห็นผลจริงก็ควรซื้อสัก 4 แผ่นขึ้นไป (สูตรเดียวกันนะ) แล้วใช้อย่างต่อเนื่อง จะดีที่สุดเลยจ้า

4) เลือกครีมบำรุงผิวให้เหมาะสม

ในส่วนของครีมนั้น Dr.Jart+ (ด็อกเตอร์จาร์ต) ซึ่งเป็นแบรนด์เวชภัณฑ์ของเกาหลี ก็โด่งดังมากในส่วนของครีม Ceramidin Cream ครีมตัวนี้ทั้งสาวไทยและสาวเกาหลียืนยันว่าใช้แล้วผิวดีขึ้น สิวหายน้อยลง ด้วยส่วนผสมของเซราไมด์ช่วยทำให้ผิวแข็งแรง ปกป้องสิ่งสกปรก อีกทั้งช่วยลดการสูญเสียของน้ำอีกด้วย แต่ถ้าใครอยากมองหายี่ห้ออื่น ก็แนะนำ Nature Republic Help Ceramide Cream หรือแบรนด์อื่นที่มีส่วนผสมคล้ายๆกันค่ะ

5) ใช้แผ่นแปะสิว ป้องกันสิ่งสกปรก

แผ่นแปะสิว หรือ Spot Patch เป็นไอเท็มที่คนเกาหลีนิยมใช้กันมากค่ะ แบรนด์ชื่อดังอย่าง Etude House ก็มีแผ่นแปะสิว AC Clinic Intense Pink Powder Spot Patch ที่เรียกได้ว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่า อย่างสาวไทยก็น่าจะคุ้นเคยกับแบรนด์ Nexcare กันใช่ไหมเอ่ย? ที่เกาหลีก็ฮิตไม่แพ้กัน วิธีใช้แผ่นแปะสิวหรือแผ่นซับสิวนี้ สามารถแปะบริเวณหัวสิวแล้วก็ออกจากบ้านได้เลย เพราะจะช่วยปกป้องสิ่งสกปรกที่อาจจะทำให้สิวยิ่งอักเสบมากขึ้น อีกทั้งทำให้ใบหน้าดูน่ามองขึ้น เพราะมีแผ่นปกปิดสิวไว้นี่เอง ลองไปเลือกดูกันได้เลยนะจ๊ะ

อย่าลืมติดตามเพจเฟสบุคบิวตี้มีทส์ ไทยแลนด์ เพื่ออัพเดทเทรนด์แฟชั่น การแต่งหน้า รีวิวเครื่องสำอาง ส่งตรงจากเกาหลีด้วยนะคะ  >> BEAUTYMEETS THAILAND FANPAGE

“เครื่องสำอางเกาหลี” แบรนด์ไหนมีอะไรดี? มาดูกัน!

อันยองฮาเซโย! สาวๆคนไหนรักการช็อปปิ้งเครื่องสำอางบ้าง? แน่ะๆๆ ห้ามแอ๊บเด็ดขาด! รู้นะว่าชอบกันทุกคน ;P เชื่อเลยว่าการช็อปปิ้ง (หรือแม้แต่ไปเดินเลือกๆเล่นๆก็ตาม) ช่างเป็น therapy ให้กับสภาพจิตใจของพวกเราได้ดีจริงๆ! วันนี้บิวตี้ มีทส์ เลยจะมาแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อสุดซู้ดดดด ของแต่ละแบรนด์สายเกาหลี ใครที่เป็นมือใหม่หัดช็อป ก็ต้องดูด่วน จะได้รู้ว่าแบรนด์ไหนมีอะไรดี หรือใครที่เซียนอยู่แล้วก็ดูได้นะ เพราะนี่เป็นฉบับอัพเดทสุดๆไปเลย

มาเริ่มกันที่แบรนด์ยอดฮิตในสายเกาหลีอย่าง ETUDE HOUSE หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า “อีทูดี้” กันเลยดีกว่า ต้องบอกไว้เลยว่าแบรนด์นี้จะค่อนข้างเด่นในเรื่องของเครื่องสำอางประเภทสีมากกว่าสกินแคร์พอสมควร โดยเฉพาะในส่วนของลิป ถือได้ว่ากระชากใจสุดๆ คุณภาพใช้ได้ สีสดใสซาบซ่า แบรนด์นี้เป็นที่นิยมในหมู่นักเรียนนักศึกษาที่เกาหลีเป็นพิเศษค่ะ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ถือได้ว่า “เริ่ด” ของนางก็มี 3 อย่าง ดังนี้เลยจ้า

1. Play 101 Stick Contour Duo : คอนทัวร์สติ๊กไว้ใช้ไล้ดั้ง เฉดดิ้งหน้าและไฮไลท์ ถือได้ว่าเป็นแบรนด์เกาหลีเริ่มแรกผลิตสินค้าสายนี้เลย เพราะสาวๆเกาหลีปกติเขาไม่คอนทัวร์หน้ากันเท่าไรหรอก แต่งานนี้ถือว่าทำดี เนื้อครีมนุ่ม เกลี่ยง่าย แต่คิดว่าหัวสติ๊กแอบเล็กไปหน่อย (แต่ว่าใช้ไล้ดั้งได้ดีมากเลย) ใครเป็นสายเฉดดิ้งหน้าต้องลองไปดูกันค่ะ ราคา 12,000 วอน (ประมาณ360บาท) เท่านั้นเอง

(source: etudehouse.co.kr)

2. Lash Perm Curl Fix Mascara : นางคือมาสคาร่าที่ขึ้นชื่อในการทำให้ขนตางอนเด้งดึ๋งเป็นรูปตัว C สาวเกาหลีก็ชอบใช้กันมากค่ะ ราคา 12,000 วอน (ประมาณ360บาท) มีหลายสีด้วยนะ ตั้งแต่สีดำ น้ำตาล พลัมเบอร์กันดี้ และชมพู! อย่าเพิ่งตกใจไป อาจจะฟังดูแปลก แต่ว่าก็กิ๊บเก๋สุดๆ ไม่เชื่อลองดูรูปได้ค่ะคู้นนนนนนน

(source: etudehouse.co.kr)

3. Color in Liquid Lips Juicy : เป็นลิปทินท์สีสดติดทนนานที่เพิ่งออกมาใหม่ล่าสุดไม่นานมานี้ ความแจ่มของสีนางต้องให้โล่จริงๆค่ะ เพราะแบรนด์ไหนก็สู้ไม่ได้เลย นางมีถึง 10 สีเลยนะ! สำหรับสีมิ้นท์ที่ทำให้หลายคนตกใจ จริงๆแล้วพอทาออกมานางจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูอมม่วงๆ ราคาก็เพียงอันละ 9,500 วอน (เกือบๆ 300บาท) ภาพด้านล่างเป็นส่วนหนึ่งของตัวอย่างเท่านั้น ใครอยากดูเพิ่มก็ไปเช็คเว็บไซต์ ETUDE HOUSE โลดจ้า

(source: etudehouse.co.kr)

ตามติดมาด้วยแบรนด์ในดวงใจสาวไทยทุกคน Skinfood สกินฟู้ดนางขึ้นชื่อเรื่องสกินแคร์เป็นอย่างดีค่ะ ด้วยคอนเซปต์การใช้ผักผลไม้ของกินได้มาทำเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง “เพื่อให้อาหารกับผิว” สำหรับท็อปไอเท็มที่เลือกมาก็มีดังนี้จ้า

1. Black Sugar Mask Wash Off : อันนี้ต้องขอเสียงปรบมือให้นางจริงๆ เพราะฮิตจนได้รางวัล SURE Beauty Awards และเป็นที่ยอมรับของสาวๆเกาหลีแทบทุกคน วิธีใช้คือให้สครับด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำตาลนี้ในขณะที่ใบหน้ายังเปียกหมาดๆ จากนั้นนวดไปสักพัก ทิ้งไว้สัก 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น เท่านั้นหน้าก็จะเนียนและนุ่มนวลสุดๆ ราคาอยู่ที่กระปุกละ 7,700 วอน หรือประมาณ 240 บาทจ้ะ

(source: theskinfood.co.kr)

2. Gold Caviar Toner : โทนเนอร์ปลาคาเวียร์ทองคำ โห อะไรจะอลังการเบอร์นั้น คุณภาพนางก็ดีจริงๆค่ะ ในตัวผลิตภัณฑ์มีแผ่นทองคำเล็กๆผสมอยู่เบาๆด้วย ใช้เช็ดผิวเหมือนโทนเนอร์ทั่วไปเลย แต่รู้สึกได้ว่าปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น ไม่ทิ้งให้ผิวแห้งแถมยังเพิ่มความชุ่มชื้น  สำหรับไลน์โกลด์คาเวียร์นี้ ดีเลิศแทบทุกอย่างจริงๆนะ ทั้งเซรั่ม อายครีม อิมัลชั่น ต้องลองไปดูค่ะ โทนเนอร์อยู่ที่ราคา 19,000 วอนหรือเกือบๆ 600 บาทค่ะ

(source: theskinfood.co.kr)

3. All Over Muffin Cake Finish No.5 : สุดยอดของผลิตภัณฑ์ไฮไลท์และบรอนเซอร์ที่ทำให้หน้าวาวฉ่ำเป็นสาวเกาหลีอย่างสมบูรณ์แบบ! สำหรับพี่คนนี้ บอกเลยว่า แนะนำมากถึงมากที่สุด จะต้องจัดไปให้ได้ เพราะนางเป็นไฮไลท์และบรอนเซอร์แบบแป้ง ชิมเมอร์ฟรุ้งฟริ้งได้ใจมาก หลังจากลงรองพื้น ปัดแก้ม ต้องจัดพี่คนนี้เพื่อเก็บงานจริงๆ ราคาก็เพียง 13,500 วอน (400 บาทโดยประมาณ)

(source: kbeautynow.com)

มาต่อกันที่อีกหนึ่งแบรนด์ที่ฮิตไม่แพ้กัน “อินนิสฟรี” นั่นเองค่ะ ยอมรับเลยว่าแบรนด์นี้คุณภาพดีงามจริงๆ สาวๆเกาหลียกนิ้วให้ และนางก็มีหลายผลิตภัณฑ์ที่บอกได้เลยว่าแซ่บจริง จะเลือกมาแค่บางชิ้นยังยากเลย

1. No-Sebum Mineral Powder : ไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้จริงๆ กับแป้งฝุ่นคุมมันโปร่งแสงตัวนี้ นางสารพัดประโยชน์มาก ตั้งแต่ใช้ลงซับมัน เซ็ตเครื่องสำอาง ไปจนถึงเป็นอายไพร์มเมอร์ (ลงบนเปลือกตาก่อนแต่งอายแชโดว์) อีกทั้งใช้ซับความมันบนเส้นผมได้ด้วย เมื่อต้นเดือนที่เกาหลีก็ได้ออกแพกเกจสีสันสดใสมาเพื่อเป็นการฉลองครบรอบสิบปีของแบรนด์ เรียกได้ว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยทีเดียวค่ะ

(source: innisfree.co.kr / ebay.com)

2. Eco Flower Tint : ทินท์สุดที่รักที่อยากจะแนะนำให้สาวๆไปลองดูมาก นางขึ้นชื่อว่าใช้แทนกันกับ Benefit Tint ได้ด้วย ส่วนตัวคิดว่าอันนี้ดีเลิศ สีงดงามมาก ใครชอบทาปากทินท์ๆไล่สีใสๆแบบเกาหลี ก็ลองไปดูกันได้นะ

(source: innisfree.co.kr / beautysnapshop.net / zauberschwalbe.de)

3. Long Wear Cushion : เป็นหนึ่งในคุชชั่นที่ดีงามพระรามแปด แนะนำมากตัวนี้ โดยเฉพาะสาวผิวมันทั้งหลาย คุชชั่นอันนี้จะให้งานผิวแมทค่ะ เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่ค่อยชอบความมันวาว แต่อันนี้แบบผิวสวยกริบ เชียร์แรงค่ะ!

(source: innisfree.co.kr / partsofqueenie.com)

มาถึงแบรนด์สุดท้ายที่อยากแนะนำให้กับสาวๆกันแล้ว นางคือ “เดอะเฟสช็อป” ที่มีสาวสวย Suzy แห่งวง Miss A เป็นพรีเซนเตอร์นั่นเองค่ะ แบรนด์นี้อาจจะไม่ป๊อปเท่ากับสามแบรนด์ที่แนะนำไว้ แต่ก็ยอมรับว่าคุณภาพนางไม่เบาอยู่

1. Ink Lipquid : เริ่มจากงานลิปอิงค์ ที่แบรนด์นี้ทำได้ดีมาก เรียกได้ว่าเป็นสินค้าขึ้นชื่อประจำยี่ห้อนี้เลยก็ว่าได้ สินค้าก็ตามชื่อเลยค่ะ เป็นเหมือนหมึกทาปาก ที่สีเน้นชัดมากกกกกก ติดทนนาน จะทาแบบไล่สีเก๋ๆ หรือจะทาแบบเต็มริมฝีปากเลยก็ได้นะ สีของนางก็มีเยอะเหลือเกิน ราคาอยู่ที่ 13,000 วอน (400กว่าบาท) ค่ะ

(source: faceshop.com / ohfishiee.com)

2. Gelset Smudgeproof Auto Liner : เป็นอายไลน์เนอร์ในดวงใจ เรียกได้ว่าใช้แล้วไม่ผิดหวังเลย สีติดทนนาน ไม่แพนด้าค่ะ สาวๆที่มองหาอายไลน์เนอร์อยู่ น่าจะรับไปพิจารณา ราคาคุณพี่คนนี้อยู่ที่ 8,000วอน (240บาท)

(source: thefaceshop.com / hoamyphamchinhhang.net) 

หวังว่าสาวๆจะชอบข้อมูลที่นำมาฝากกันนะคะ ใครที่จะไปช็อปปิ้งก็ขอให้เลือกสินค้าอย่างสนุกสนาน อย่าลืมเลือกประเภทและสีที่เหมาะกับตัวเองด้วยละ ใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลความงาม เข้ามาคุยกันได้ทางเฟสบุคแฟนเพจของบิวตี้ มีทส์  >> BEAUTYMEETS THAILAND กันได้นะจ๊ะ พบกันคราวหน้าค่ะ!

บอกต่อ! วิธีทำความสะอาดผิวฉบับสาวเกาหลี

วันนี้บิวตี้ มีทส์ มีวิธีเด็ดในการล้างเครื่องสำอาง ทำความสะอาดผิว แบบฉบับสาวเกาหลีมาฝากกันค่ะ! ซึ่งวิธีนี้จะรวมถึงการเช็ดเครื่องสำอาง การใช้แปรงทำความสะอาดผิวหน้า เหมาะสำหรับวันที่ต้องเผชิญกับฝุ่นและมลพิษเยอะ (คาดว่าสาวไทยจะเข้าใจได้ดี) งั้นเราไปเริ่มกันเลยไหมคะ?!

ข้อมูลดีๆ แบ่งปันโดย บิวตี้บล็อกเกอร์สาวเกาหลีคนสวย SangAhTube (ซังอา) 

ก่อนอื่นก็ต้องเริ่มจากการล้างเครื่องสำอางค่ะ เอาล่ะ เริ่มด้วยการใช้ Lip & Eye Remover เพราะเครื่องสำอางที่ใช้บริเวณดวงตาและริมฝีปากนั้นต้องล้างให้สะอาดเป็นพิเศษ ต้องใช้รีมูฟเวอร์นะ แค่ cleansing water ทั่วไปอาจจะเอาไม่อยู่ หยดให้ชุ่มทั่วสำลี (ผลิตภัณฑ์ที่ใช้คือ LANEIGE Lip & Eye Remover Waterproof)

จากนั้นกดลงบนดวงตาแช่ไว้ประมาณ 5 นาที แล้วค่อยๆขยับนิ้ว คลึงๆ ให้เครื่องสำอางไหลออกหมดจด อย่าลืมเช็ดคิ้วและลิปสติกด้วยนะคะ

ในส่วนของรองพื้น ให้ใช้คลีนซิ่งวอเตอร์ในการเช็ดทำความสะอาด เขาว่ากันว่าคลีนซิ่งออยล์จะเหมาะกับวันที่แต่งหน้าแบบจัดเต็ม เมคอัพหนาๆ แต่ถ้าจะทำความสะอาดเมคอัพในทุกวันใช้แบบน้ำจะอ่อนโยนต่อผิวมากกว่าค่ะ

ล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ-อุ่นเลยจ้า

จากนั้นเราจะมาสู่ขั้นตอนการล้างหน้ากันค่ะ

เริ่มด้วยการบีบโฟมล้างหน้าลงใยขัดผิว แล้วถูๆๆให้เกิดฟอง เราจะใช้แปรงทำความสะอาดผิวในการล้างหน้าค่ะ

ฟองยิ่งฟุ้งมากแค่ไหน ก็สามารถทำความสะอาดได้ดียิ่งขึ้นค่ะ ถูๆๆ ต่อไปเรื่อยๆ

นี่คือแปรงทำความสำอาดผิวที่จะใช้ค่ะ! เป็นของ MAKEON เขาว่ากันว่าใช้ง่ายและคุณภาพดีทีเดียวเลย วิธีใช้ง่ายๆ ก็คือ กดครั้งที่ 1 – Low หรือจะหมุนด้วยความแรงต่ำสุด ครั้งที่ 2 – High และครั้งที่ 3 เป็นระบบนวดค่ะ

กลับมาที่การตีโฟม พอได้ปริมาณพอสมควรแล้ว เราก็จะป้ายลงบนหน้าแบบนี้ค่ะ

อย่าลืมป้ายโฟมลงบนหัวแปรงด้วยนะ จะได้นุ่มๆ ขึ้น

กดปุ่มความแรง 2 ครั้ง (High) แต่ถ้าวันไหนรู้สึกว่าผิวค่อนข้างบอบบางก็แค่หนึ่งครั้งก็ได้ค่ะ จากนั้นเริ่มจากหน้าผากก่อนเลยนะ ทำความสะอาดโดยหมุนวนๆ แบบนี้ค่ะ

ตามด้วยส่วนจมูกค่ะ ประมาณ 20 วินาที

รวมถึง V Line หรือกรอบใบหน้าด้วยค่ะ สำคัญมากเลยน้า เพราะสาวๆ หลายคนลืมใส่ใจกับบริเวณข้างๆ ทำความสะอาดประมาณ 20 วินาทีนะคะ

จากนั้นบริเวณหน้าแก้ม ข้างละ 10 วินาทีค่ะ

ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น จากนั้นยังไม่ต้องเช็ดน้ำออกจากผิวนะ ให้เปลี่ยนหัวแปรงเป็นหัวแบบนวด จากนั้นยกกระชับใบหน้าบริเวณคางขึ้นไปค่ะ ช่วยสร้างใบหน้าเรียวสวยๆ ได้เลย

และท้ายสุด อย่าเช็ดหน้าด้วยผ้าขนหนูหรือทิชชู่นะ ใช้มือค่อยๆ ตบๆ จนผิวแห้ง เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการทำความสะอาดในทุกวันแล้วค่า 🙂

อย่าลืมติดตามเพจเฟสบุคบิวตี้มีทส์ ไทยแลนด์ เพื่ออัพเดทเทรนด์แฟชั่น การแต่งหน้า รีวิวเครื่องสำอาง ส่งตรงจากเกาหลีด้วยนะคะ  >> BEAUTYMEETS THAILAND FANPAGE

[HOW TO] Vitamin Pink Makeup! แต่งหน้าชมพูสุขภาพดี

อันยองฮาเซโย! สวัสดีสาวๆบิวตี้ มีทส์อีกครั้งนะคะ วันหยุดยาวแบบนี้ ไปเที่ยวไหนกันบ้างไหม? ขอให้ทุกคนเล่นน้ำอย่างสนุกสนานและปลอดภัยด้วยน้า วันนี้ก็นำฮาวทูการแต่งหน้าสวยๆ ส่งตรงจากเกาหลีมาฝากกันอีกเช่นเคย ลุคนี้เป็นลุคที่ใช้สีชมพู ใสๆแบ๊วๆ ดูสุขภาพดี “Vitamin Pink Makeup!”

ขอบคุณยูทูปเบอร์สาวเกาหลีหน้าสวย “Kyung Sun (คยองซอน)” มา ณ ที่นี้ด้วยจ้า

ใครอยากดูเป็นคลิป ลองคลิ๊กที่ลิ้งค์ได้เลยค่ะ CLICK!

 มาเริ่มการแต่งหน้ากันเลย!

เครื่องสำอางที่ใช้ (ได้สปอนเซอร์จากแบรนด์ J. ESTINA RED)

เบสสีม่วง HERA : Magic starter #02
รองพื้นคุชชั่น J.ESTINA RED : Perfectural moist pop essential pact #Natural Beige
เฉดดิ้งสติ๊ก J.ESTINA RED : Super definition crayon #Edge brown
คอนซีลเลอร์ THE SAEM : Cover perfection tip concealer #02
แป้งฝุ่น MAC : Prep + prime transparent finishing powder
ที่เขียนคิ้วแบบตลับ SHU UEMURA : Brow palette #Walnut acorn
ดินสอเขียนคิ้ว J.ESTINA RED : Super skinny brow pencil #Ash brown
มาสคาร่าคิ้ว J.ESTINA RED : Longstay waterproof browcara #Light brown
อายแชโดว์ J.ESTINA RED : Catwalk mono eyes #Nude primer
อายแชโดว์ J.ESTINA RED : Catwalk mono eyes #Before sunset
อายแชโดว์ J.ESTINA RED : Catwalk mono eyes #Jungle
อายไลน์เนอร์ J.ESTINA RED : Long stay 6 – Edge eye liner #Deep black
อายไลน์เนอร์ KATE : Skinny eyeliner #Black
อายไลน์เนอร์ J.ESTINA RED : Long stay 6 – Edge eye liner #Pink
มาสคาร่า J.ESTINA RED : Volume curling mascara
บลัชออน J.ESTINA RED : Adora blusher #Rose
ลิปสติก J.ESTINA RED : Mystere rouge velvet #Grace nude
ลิปสติก J.ESTINA RED : Mystere rouge velvet #Double pink sho

LET’S START!!!

เริ่มจากการลงเบสสีม่วงเพื่อปรับสภาพโทนสีของใบหน้าให้ดูอมชมพู

จากนั้นใช้รองพื้นคุชชั่นลงทั่วใบหน้าเลยค่ะ

จากนั้นใช้เฉดดิ้งสติ๊กสีน้ำตาลวาดลงตามเส้นคาง เกลี่ยให้เข้ากันด้วย ทำให้หน้าดูมีมิติ กระชับขึ้นค่ะ

ลุคนี้เน้นความสวยสุขภาพดี ดังนั้นอย่าลืมลงคอนซีลเลอร์บริเวณจุดหมองคล้ำ รอยสิว หรือรอยต่างๆ ด้วยนะคะ

เซ็ตทุกอย่างด้วยแป้งฝุ่นค่ะ แนะนำว่าให้ใช้แบบโปร่งแสงไม่มีสี ทำให้ลุคดูสุขภาพดีเป็นธรรมชาติค่ะ

สำหรับคิ้วให้เริ่มจากการใช้ที่เขียนคิ้วแบบฝุ่น(ตลับ) ถมสีลงไปเบาๆ ตามทรงคิ้วเดิมก่อน

ใช้ดินสอเขียนคิ้วให้เส้นหนาแต่บางๆ ทำให้หน้าเด็กลงเยอะเลยค่ะ

อย่าลืมปัดมาสคาร่าคิ้ว ปรับสีให้เข้ากันและจัดทรงด้วยจ้า

สำหรับงานตา ก่อนอื่นก็ต้องลงอายแชโดว์สีนู้ดเป็นเบสก่อนเลยค่ะ

ลงอายแชโดว์สีน้ำตาลก่อนเพื่อสร้างมิติโดยลงบริเวณหัวตากับหางตาเบาๆค่ะ เนื่องจากเราจะแต่งตาโดยใช้สีชมพู วิธีนี้จะทำให้ตาดูไม่บวม

ลงสีชมพูอ่อนบริเวณหัวตาเพื่อความแบ๊วยิ่งขึ้น

ดัดขนตา แล้วตามด้วยการเขียนอายไลน์เนอร์สีดำบริเวณขอบตาบนด้านในค่ะ

ใช้อายไลน์เนอร์สีน้ำตาลเข้มเขียนบริเวณขอบตาบนและล่าง อย่าลืมวิงหางออกไปเบาๆตามแบบในรูปด้วยค่ะ

มาถึงพ้อยท์ของลุคนี้กันแล้วจ้า! นั่นคือการวิงหางอายไลน์เนอร์ด้วยสีชมพูนี่เอง สามารถหาซื้ออายไลน์เนอร์สีชมพูแบบนี้ (แล้วแต่แบรนด์ที่ชอบ) ได้ตามร้านขายเครื่องสำอางทั่วไป เช่น EVEANDBOY ฯลฯ เลยค่ะ

เทคนิคคือให้เขียนแค่บริเวณหางพอ เวลาลืมตาก็ยังเห็นหางออกมาสวยๆ แบบนี้ค่ะ

ใช้แปรงเกลี่ยให้เรียบร้อย อย่าลืมลงบริเวณหัวตาเบาๆ ด้วยค่ะ (สามารถข้ามขั้นตอนได้หากใครไม่ชอบ)

เพิ่มความแบ๊วแบบสุดเหวี่ยงด้วยกลิตเตอร์สีขาวอมชมพู

ปัดมาสคาร่า! เท่านี้ งานตาก็เป็นอันสมบูรณ์จ้า

ลงบลัชออนสีชมพูเบาๆหน้าแก้ม

ลงลิปสติกสีชมพูนู้ด

ตามด้วยสีชมพูสุดจี๊ด ให้ดูสุขภาพดี อย่าลืมเกลี่ยให้สีเข้ากันด้วยนะคะ เท่านี้ก็เรียบร้อย!!

อย่าลืมติดตามเพจเฟสบุคบิวตี้มีทส์ ไทยแลนด์ เพื่ออัพเดทเทรนด์แฟชั่น การแต่งหน้า รีวิวเครื่องสำอาง ส่งตรงจากเกาหลีด้วยนะคะ  >> BEAUTYMEETS THAILAND FANPAGE

[HOW TO] แต่งหน้าโกลวรับซัมเมอร์ Beach Sunset Summer Look

ฮัลโหลวววววววว สาวๆบิวตี้ มีทส์ อากาศเริ่มฮ็อทขึ้นทุกที แต่สาวไทยอย่างเราก็ต้องฮ็อทสู้อากาศด้วยนะเออ วันนี้เลยนำลุคโกลวสู้ซัมเมอร์มาฝาก บอกเลยว่าเซ็กซี่มาก สาวผิวแทนแต่งได้ ผิวสว่างแต่งก็ดี ลุคนี้อิมพอร์ทจากเกาหลีโดยบิวตี้บล็อกเกอร์ “คยอง ซอน” (Kyung Sun) ขอขอบคุณคลิปของนางมา ณ ที่นี้ ด้วยจ้า

(ใครขี้เกียจอ่าน ไปดูเป็นคลิปก็ได้นะ มีซับอังกฤษอยู่ คลิ๊กเลย!!)

มาเริ่มกันเลยดีกว่าเนอะ!

[COSMETICS LIST]

ครีมกันแดด NATURE REPUBLIC – 35 mild california aloe sun block
ไพร์มเมอร์ BENEFIT – the porefessional
รองพื้น MAC – studio fix fluid #nc30
คอนซีลเลอร์ MAC – pro longwear concealer #nc30
ไฮไลท์เตอร์ BENEFIT – girl meets pearl
ไฮไลท์เตอร์แบบฝุ่น BENEFIT – hello flawless + The balm – Mary Lou manizer
ที่เขียคิ้วแบบฝุ่น NATURE REPUBLIC – botanical cake eyebrow
มาสคาร่าคิ้ว CANMAKE – heavy rotation eyebrow maskara
อายแชโดว์ URBAN DECAY – naked2 foxy
อายแชโดว์ MAC – casino
อายแชโดว์ DIOR 5 COULEURS – # 634 golden flower *limited
อายไลน์เนอร์ BBI@ – #02 mellow brown
อายไลน์เนอร์ TONY MOLY – back gel liner blak+brown
อายไลน์เนอร์ TONY MOLY – perpect eyes eyeliner pencil #1 black
อายแชโดว์ MAKEUPGEEK – badabing
มาสคาร่า VOV – no remover mascara
ขนตาปลอม MISSHA – false lashes : pure feminine
เฉดดิ้ง ETUDE HOUSE – face color corset #05
บลัชออน ARITAUM – style pop blush #jetset
ลิปสติกสีส้ม MAC – cb 96
ลิปสติกสีนู้ด SPORTS GIRL – all about you

เริ่มด้วยการทาครีมกันแดดก่อนค่ะ เกลี่ยให้ทั่วเลยนะ สำคัญมากกก (ก.ไก่ล้านตัว)

ลงไพร์มเมอร์เพื่อกันไม่ให้เครื่องสำอางไหล เน้นบริเวณหน้าผาก จมูก ใต้ตาค่ะ

ลงรองพื้นที่สีเข้มกว่าสีผิวจริงระดับหนึ่ง จากนั้นเกลี่ยและตบด้วยฟองน้ำคุชชั่น เพื่อให้ติดทนนานขึ้น

ลงคอนซีลเลอร์สีเดียวกับผิวจริง จากนั้นตบด้วยฟองน้ำคุชชั่นให้เป๊ะยิ่งขึ้น

ต่อไปเราจะใช้ไอเท็มเด็ด Benefit Girl Meets Pearl ซึ่งเป็นเหมือนไฮไลท์แบบลิควิดเพื่อความโกลวสุดๆให้กับใบหน้าค่ะ

ใช้แปรงเกลี่ยให้ทั่วหน้าเลยค่ะ โกลวพุ่งแน่นอน ณ จุดนี้

แล้วเก็บงานผิวด้วยไฮไลท์แบบฝุ่น เท่านี้ก็เรียบร้อย ต่อไปจะมาเขียนคิ้วกันค่ะ

เขียนคิ้วโดยเน้นให้โก่งขึ้นเล็กน้อย จะได้ลุคแบบฝรั่งๆ ใช้สีน้ำตาลเข้มจะสวยค่ะ สามารถใช้สีเดียวกันเฉดดิ้งดั้งลงมาด้วยก็ได้นะ จะทำให้จมูกดูโด่งขึ้นค่ะ

จากนั้นใช้มาสคาร่าคิ้วจัดทรงและปรับสีให้เรียบร้อย ฝรั่งสุดๆค่ะ ลุคนี้

ใช้สีสว่างลงเป็นเบสทั่วเปลือกตาก่อน

จากนั้นลงสีน้ำตาลบรอนซ์ทั่วเปลือกตาเลยค่ะ

ต่อมาใช้สีน้ำตาลเข้มประกายมุกเน้นบริเวณหางตาให้ดูมีมิติมากขึ้น

ใช้ไฮไลท์เตอร์แบบฝุ่น เน้นบริเวณโหนกคิ้วและหัวตา

เขียนอายไลน์เนอร์ด้วยดินสอสีน้ำตาล จากนั้นใช้แบบเจลสีน้ำตาลเข้มผสมดำ (เลือกสีดำอย่างเดียวก็ได้ค่ะ) วาดทับอีกที เทคนิคให้ได้วิงสวยๆ ให้ใช้เล็บวาดเส้นขึ้นไปค่ะ จะได้วิงเซ็กซี่ๆ

สามารถใช้ดินสออายไลน์เนอร์สีดำลงบนขอบตาบนด้านในได้ด้วยค่ะ เทคนิคนี้จะทำให้ตาโตสวยขึ้นเยอะ

จากนั้นใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลเข้มลงบริเวณขอบตาล่าง

ลุคนี้จะเน้นงานเฉดดิ้งเป็นพิเศษเพื่อให้ได้ผิวบรอนซ์เข้ากับซัมเมอร์ เลือกเฉดดิ้งสีเข้มแบบฝุ่นปัดลงบริเวณแก้มเลยค่ะ อย่าลืมตรงคางและกรอบหน้าด้วย

ลงบรัชออนที่มีประกาย จะทำให้หน้ายิ่งโกลวและสวยมากยิ่งขึ้น จะให้ดีอย่าลงบริเวณหน้าแก้มนะคะ เพราะไม่เน้นลุคน่ารักแบ๊ว แต่ให้ลงข้างๆแทน จะทำให้ดูเซ็กซี่มากขึ้น

ยังพุ่งไม่สะใจ ก็ขอลงไฮไลท์แบบฝุ่นบริเวณโหนกแก้มอีกนิดหนึ่งเนอะ อย่าลืมไล้บริเวณดั้งและหน้าผากด้วย

ลงลิปสติกสีส้มประกายทอง จากนั้นใช้สีนู้ดลงบริเวณรอบนอกริมฝีปาก จะทำให้ลุคดูสวยเซ็กซี่ยิ่งขึ้นค่ะ

และนี่คือลุคเสร็จสมบูรณ์ค่ะ โกลวขนาดนี้ หนุ่มๆ ไม่มองก็แย่แล้ว!

อย่าลืมติดตามเพจเฟสบุคบิวตี้มีทส์ ไทยแลนด์ เพื่ออัพเดทเทรนด์แฟชั่น การแต่งหน้า รีวิวเครื่องสำอาง ส่งตรงจากเกาหลีด้วยนะคะ  >> BEAUTYMEETS THAILAND FANPAGE

[HOW TO] แต่งหน้าติดทน โดนแดดโดนฝน ก็ไม่หวั่น!!

สวัสดีสาวๆบิวตี้ มีทส์ค่ะ ในที่สุดฤดูร้อนก็มาเยือนอย่างเต็มรูปแบบ (เอ่อ ได้ข่าวว่ามานานละ) เดือนเมษาทั้งที เตรียมตัวกับเทศกาลสุดมันส์ ทั้งสงกรานต์ ไหนจะวันหยุดยาวๆอีก วันนี้เราก็เตรียมวิธีแต่งหน้าติดทน หรือ Long-lasting Make Up เหมาะสำหรับสาวๆ ที่คิดจะไปเล่นสงกรานต์หรือพาร์ตี้สุดเหวี่ยง ลองนำไปใช้กันได้เลยนะจ๊ะ อ่ะอย่าพูดมาก ไปเริ่มกันเล้ยยยยย

(รายชื่อเครื่องสำอางที่ใช้)

ไพร์มเมอร์ Make up for ever :: Step1. Skin equalizer #1 Mattifying primer
สเปรย์ฟิกเซอร์Make up for ever :: mist & fix
คอนซีลเลอร์ Laura Mercier :: Undercover pot-3
คอนซีลเลอร์ปิดรอยคล้ำใต้ตา Maybelline newyork :: Instant age rewind concealer #fair
รองพื้น Missha :: Radiance foundation #23
รองพื้น Giorgio Armani :: Lasting silk UV foundations #4
คอนซีลเลอร์แบบจิ้มจุ่มThe saem :: Cover perfection tip concealer #1.5
ดินสอเขียนคิ้ว  Dior :: Sourcils poudre powder eyebrow #593
อายเบส Bobbi brown :: Long-wear eye base #medium
อายแชโดว์ The face shop :: Single shadow matt #BR03
มาสคาร่าคิ้ว Maybelline newyork :: Fashion brow coloring mascara #Rusty brown
อายแชโดว์ Missha :: Modern shadow #MBR01
เจลอายไลน์เนอร์ Tonymoly :: Back stage eyeliner #black
อายไลน์เนอร์เจลดินสอ Missha :: Long wear gel pencil liner #01
มาสคาร่าฟิกเซอร์ Etude house :: Dr.mascara fixer for perfect lash
มาสคาร่า Lancome :: Cils booster
มาสคาร่า Maybelline newyork :: Mega eyes volum’express smudgeproof
มาสคาร่า  Lancome :: Grandiose smudgeproof
บลัชออน Becca :: beach tint shimmer souffle #watermelon/moonstone
ลิปสติก VDL :: Expert color lip cube #502 Rose wood
ลิปโค้ท Anna sui :: Lip color top coat
แป้งฝุ่น Make up for ever :: HD Micro finish powder

 

 

 

 

 

 

ก่อนอื่นต้องเริ่มด้วยเอสเซ้นส์แบบน้ำที่ซึมสู่ผิวได้ไว ทำให้ผิวไม่ลื่น ไม่งั้นเครื่องสำอางไหลหลุดหมดแน่

จากนั้นตามด้วยเซรั่มแบบน้ำ ซึมผิว ล็อคความชุ่มชื้นไว้เลย

บำรุงผิวอีกด้วยโลชั่นน้ำของแมค (ในส่วนบำรุงผิว แนะนำให้สาวๆ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวอยู่แล้ว แต่เช็คนะว่าเนื้อมันเกินไปไหม ทาแล้วซึมดีหรือเปล่า เพราะถ้าลงเครื่องสำอางต้องผิวยังชื้นๆหรือมันละก็ ไหลชัวร์ๆ เลยแหละ)

((เทคนิคการลงครีมบำรุงคือต้องใช้นิ้วตบๆแตะๆ ทำให้ผิวเต่งตึง ซึมดีขึ้นด้วย))

จากน้้นลงกันแดด เกลี่ยให้ซึมดีๆเลยน้า

ลงไพร์มเมอร์เลย วิธีนี้จะช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานแน่นอน ใช้แบบเนื้อแมทด้วยนะ จะได้ไม่มันไหลเยิ้ม

ฉีดสเปรย์ฟิกเซอร์ ล็อคแน่ยิ่งขึ้นไปอีก แนะนำว่าให้รอจนซึมเข้าผิวไปเลยนะ ไม่ต้องถูหรือตบ

ลงคอนซีลเลอร์บริเวณที่ต้องการปกปิด แนะนำให้ใช้แบบกระปุกหรือตลับ แล้วลงด้วยพู่กันคอนซีลเลอร์นะ ติดทนนานกว่าแบบน้ำหรือแท่งแน่นอน

ในส่วนของใต้ตา ขอใช้คอนซีลเลอร์แบบคุชชั่น หรือแบบลิควิดก็ได้นะ เนื้อชุ่มชื้นหน่อย จะได้ไม่ตกร่อง

สำหรับรองพื้นนั้น ควรเลือกสีและรูปแบบที่เหมาะกับผิวของตัวเอง ลงด้วยฟองน้ำเลย เกลี่ยเบาๆ บางๆ ไม่ให้หนาจนเกินไป วิธีเลือกรองพื้นให้พิจารณาว่า long-lasting (ติดทนนาน) & coverage (ปกปิด) ดีแค่ไหนค่ะ

สามารถลงรองพื้นเนื้อแมทอีกครั้งบริเวณหน้าผากและจมูก เพื่อความแน่นเป๊ะ เกลี่ยด้วยฟองน้ำเหมือนเดิมนะ

และเพื่อความปังของงานผิว ลงคอนซีลเลอร์แบบลิควิดด้วยพู่กันอีก บริเวณที่ต้องการปกปิด สำคัญมากคือให้ใช้ฟองน้ำตบๆ ให้นางติดทนนาน

สังเกตว่าการแต่งหน้าครั้งนี้ ค่อยๆบิ้วทีละชั้น ไม่ใช่โบกไปเลยทีเดียว จะได้งานผิวที่สวย อยู่นานค่ะ

ลงอายไพร์มเมอร์บริเวณคิ้ว เกลี่ยให้ซึม ทำให้การเขียนคิ้วติดทนยิ่งขึ้นไปอีก

เขียนคิ้วโดยใช้ดินสอร่างโครง จากนั้นแนะนำให้ใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลเข้ม (เลือกสีให้เข้ากันสีผม) เติมสีลงไปทั่วคิ้วเลย

สำคัญมาก ใช้มาสคาร่าปัดคิ้วให้เรียบร้อยด้วย ล็อคเป๊ะเลย

ลงอายไพร์มเมอร์ก่อนแต่งตาและรอให้แห้งตามธรรมชาติ พอแห้งแล้ว ลงขอบตาล่างด้วยค่ะ อย่าลืมเด็ดขาดน้า ไม่งั้นแพนด้าถามหาไม่รู้ด้วย

มาถึงส่วนของอายเมคอัพ เริ่มโดยอายแชโดว์สีน้ำตาลหรือครีมเนื้อแมทเป็นเบสก่อนเลย

กรีดตาด้วยเจลอายไลน์เนอร์

สำหรับลุคนี้ เราจะแต่งสโมคกี้อายกันค่ะ (ถ้าใครไม่ชอบก็แค่อายไลน์เนอร์ก็เอาอยู่ละ เบาๆ ใสๆ) ดังนั้นจะใช้เจลอายไลน์เนอร์แบบดินสอ ทาให้เข้มๆเลย แนะนำให้ใช้สีดำแบบมีประกายนะ จะได้ไม่เข้มจนเกินไป

ใช้อายไลน์เนอร์สีน้ำตาลเข้มทาทับและเลยขึ้นมานิดหนึ่งให้ฟุ้งๆ ดูแล้วไม่อึดอัด วาดขอบตาล่างด้วย ตาจะได้ดูโตๆ สโมคกี้ๆ

ปัดมาสคาร่าฟิกเซอร์ก่อน อย่าลืมขนตาล่างด้วย (ขนตาล่างใช้แบบ long lash จะทำให้จนตายาวและเป๊ะขึ้น)

ตามด้วยมาสคาร่าสีดำแบบ smudgeproof จะได้ไม่ต้องกลัวแพนด้านะ

สำหรับขนตาล่างนั้นก็ยอมไม่ได้ แนะนำ smudgeproof เนื้อคล้ายฟิล์ม

การลงบลัชออนต้องวิธีนี้เลย ลงแบบครีมก่อน จากนั้นตบซ้ำด้วยแบบฝุ่น สีแจ่มและอยู่ทนชัวร์จ้า

เลือกลิปสติกเนื้อแมทเพื่อความติดทนนาน หรือจะใช้ลิปดินสอก็ได้นะ ยิ่งของ 3CE/Stylenanda อันนั้น เป๊ะเว่อวังอลังการค่ะ

เพื่อความเพอร์เฟกต์ เราก็จะลงลิปโค้ทด้วย ติดทนนานสิบปีเลยค่า

อย่าลืมฉีดสเปรย์ฟิกเซอร์อีกครั้ง รอให้แห้งแล้วตบด้วยแป้งฝุ่นโปรงแสงเพื่อกำจัดความมันส่วนเกิน เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ

ขอบคุณคลิปจาก ดายอง บิวตี้ บล็อกเกอร์คนสัญชาติเกาหลี หรือ Dayeong’s beauty drawing

ไปดูคลิปเต็มได้เลย คลิ๊ก!!!

แล้วพบกันใหม่นะคะสาวๆ รัก!