รีวิว! MISSHA Matt Painting Rouge ลิปจิ้มจุ่มแมทสายเกาหลี

(Cover Photo from http://blog.naver.com/sungdevilsh – thank you!)

กระแสลิปจิ้มจุ่มเนื้อแมทมาแรงตั้งแต่ฝั่งตะวันตก จนตอนนี้แบรนด์โร้ดช็อปสายเกาหลีอย่าง MISSHA – มิชช่า ก็ได้ออกไลน์ใหม่ MISSHA Matt Painting Rouge มาให้สาวๆ ได้กรี๊ดกัน สีก็มีทั้งแบบนู้ดๆ เข้มๆ แนวตะวันตกไปจนถึงสดใสคงความเป็นเกาหลี อย่ารอช้าไปดูรีวิวและสวอชกันเลยค่ะ

นางมีทั้งหมด 10 สี จัดเต็มจริงๆ ค่ะ เรามาดูกันทีละสีดีกว่า

“Fall In You” เป็นสีแดงจี๊ดๆ อมส้มนิดๆ ทาแล้วขับผิว ซาบซ่าสุดๆ

“Be Brave” ส้มจี๊ดไปในโทนเหลือง วินเทจและเปรี้ยวป๊อปสุดๆ ซัมเมอร์แบบนี้เข้าน่าดูเลย

“In My Pouch” ส้มโครัล ทาได้ทุกวัน แต่งง่ายกับทุกลุค คาดว่าสมชื่อคือพกติดกระเป๋าได้เลยค่ะ

“Say Cheese” สีส้มอีกแล้ว แต่เป็นโทนเข้ม ค่อนไปทางน้ำตาล เป็นสีที่คิดว่าทาง่ายนะ เหมาะกับทาไปทำงาน ลุคเป็นผู้ใหญ่

“Call Me Sugar” ชมพูหวานเลย คุณหนูสุดๆ ทาเป็นแบบไล่สีทินท์ๆ ก็สวยนะสีนี้

“Love Me More” ชมพูเข้มขึ้นมาหน่อยหนึ่ง ดูเซ็กซี่ เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น หนุ่มๆ เห็นแล้วต้อง เลิฟมีมอร์ แน่ๆ

“Think Of You” อุ๊ย มาแล้วๆ สีชมพูนู้ด ฝรั่งๆ ทาแล้วเซ็กซี่ทีเดียวเชียว

“Make Crazy” ชมพูอมม่วง เซ็กซี่ มีเสน่ห์ สีนี้ทาไปทำงานก็สวยใช้ได้เลยค่ะ

“Without You” ส้มจี๊ดอมแดง สวยกับลุคผิวบรอนซ์ ไม่ก็ขาวสว่าง เป็นอีกสีที่น่าลองค่ะ

“Look At Me” แดงฉ่ำหนำใจ รับรองสีนี้ทาแล้วเกิดค่ะ สวยจริงๆ

มาพูดถึงเนื้อสีกันบ้าง…

(thank you Dailyssae for photos)

เนื้อสี แน่น ชัด สมใจจริงๆ ค่ะ แห้งบ้างเล็กน้อย ต้องบำรุงปากให้ดีๆ ก่อนลงนะ ไม่งั้นอาจจะเห็นรอยแตก แต่พูดถึงโดยรวมคือประทับใจมากค่ะ สีนางชัด โอเคมากเลย

ความติดทนนานก็ถือว่าโอเคมาก ปลื้มปริ่ม

ถ้าสาวๆ คนไหนอยากซื้อก็รอติดตามทาง MISSHA Thailand Facebook Page  ได้เลยนะคะ

ติดตามข่าวสาร รีวิวเครื่องสำอาง ได้ทาง BEAUTYMEETS THAILAND มาทักทายกันได้ค่ะ!

“เครื่องสำอางเกาหลี” แบรนด์ไหนมีอะไรดี? มาดูกัน!

อันยองฮาเซโย! สาวๆคนไหนรักการช็อปปิ้งเครื่องสำอางบ้าง? แน่ะๆๆ ห้ามแอ๊บเด็ดขาด! รู้นะว่าชอบกันทุกคน ;P เชื่อเลยว่าการช็อปปิ้ง (หรือแม้แต่ไปเดินเลือกๆเล่นๆก็ตาม) ช่างเป็น therapy ให้กับสภาพจิตใจของพวกเราได้ดีจริงๆ! วันนี้บิวตี้ มีทส์ เลยจะมาแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อสุดซู้ดดดด ของแต่ละแบรนด์สายเกาหลี ใครที่เป็นมือใหม่หัดช็อป ก็ต้องดูด่วน จะได้รู้ว่าแบรนด์ไหนมีอะไรดี หรือใครที่เซียนอยู่แล้วก็ดูได้นะ เพราะนี่เป็นฉบับอัพเดทสุดๆไปเลย

มาเริ่มกันที่แบรนด์ยอดฮิตในสายเกาหลีอย่าง ETUDE HOUSE หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า “อีทูดี้” กันเลยดีกว่า ต้องบอกไว้เลยว่าแบรนด์นี้จะค่อนข้างเด่นในเรื่องของเครื่องสำอางประเภทสีมากกว่าสกินแคร์พอสมควร โดยเฉพาะในส่วนของลิป ถือได้ว่ากระชากใจสุดๆ คุณภาพใช้ได้ สีสดใสซาบซ่า แบรนด์นี้เป็นที่นิยมในหมู่นักเรียนนักศึกษาที่เกาหลีเป็นพิเศษค่ะ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ถือได้ว่า “เริ่ด” ของนางก็มี 3 อย่าง ดังนี้เลยจ้า

1. Play 101 Stick Contour Duo : คอนทัวร์สติ๊กไว้ใช้ไล้ดั้ง เฉดดิ้งหน้าและไฮไลท์ ถือได้ว่าเป็นแบรนด์เกาหลีเริ่มแรกผลิตสินค้าสายนี้เลย เพราะสาวๆเกาหลีปกติเขาไม่คอนทัวร์หน้ากันเท่าไรหรอก แต่งานนี้ถือว่าทำดี เนื้อครีมนุ่ม เกลี่ยง่าย แต่คิดว่าหัวสติ๊กแอบเล็กไปหน่อย (แต่ว่าใช้ไล้ดั้งได้ดีมากเลย) ใครเป็นสายเฉดดิ้งหน้าต้องลองไปดูกันค่ะ ราคา 12,000 วอน (ประมาณ360บาท) เท่านั้นเอง

(source: etudehouse.co.kr)

2. Lash Perm Curl Fix Mascara : นางคือมาสคาร่าที่ขึ้นชื่อในการทำให้ขนตางอนเด้งดึ๋งเป็นรูปตัว C สาวเกาหลีก็ชอบใช้กันมากค่ะ ราคา 12,000 วอน (ประมาณ360บาท) มีหลายสีด้วยนะ ตั้งแต่สีดำ น้ำตาล พลัมเบอร์กันดี้ และชมพู! อย่าเพิ่งตกใจไป อาจจะฟังดูแปลก แต่ว่าก็กิ๊บเก๋สุดๆ ไม่เชื่อลองดูรูปได้ค่ะคู้นนนนนนน

(source: etudehouse.co.kr)

3. Color in Liquid Lips Juicy : เป็นลิปทินท์สีสดติดทนนานที่เพิ่งออกมาใหม่ล่าสุดไม่นานมานี้ ความแจ่มของสีนางต้องให้โล่จริงๆค่ะ เพราะแบรนด์ไหนก็สู้ไม่ได้เลย นางมีถึง 10 สีเลยนะ! สำหรับสีมิ้นท์ที่ทำให้หลายคนตกใจ จริงๆแล้วพอทาออกมานางจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูอมม่วงๆ ราคาก็เพียงอันละ 9,500 วอน (เกือบๆ 300บาท) ภาพด้านล่างเป็นส่วนหนึ่งของตัวอย่างเท่านั้น ใครอยากดูเพิ่มก็ไปเช็คเว็บไซต์ ETUDE HOUSE โลดจ้า

(source: etudehouse.co.kr)

ตามติดมาด้วยแบรนด์ในดวงใจสาวไทยทุกคน Skinfood สกินฟู้ดนางขึ้นชื่อเรื่องสกินแคร์เป็นอย่างดีค่ะ ด้วยคอนเซปต์การใช้ผักผลไม้ของกินได้มาทำเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง “เพื่อให้อาหารกับผิว” สำหรับท็อปไอเท็มที่เลือกมาก็มีดังนี้จ้า

1. Black Sugar Mask Wash Off : อันนี้ต้องขอเสียงปรบมือให้นางจริงๆ เพราะฮิตจนได้รางวัล SURE Beauty Awards และเป็นที่ยอมรับของสาวๆเกาหลีแทบทุกคน วิธีใช้คือให้สครับด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำตาลนี้ในขณะที่ใบหน้ายังเปียกหมาดๆ จากนั้นนวดไปสักพัก ทิ้งไว้สัก 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น เท่านั้นหน้าก็จะเนียนและนุ่มนวลสุดๆ ราคาอยู่ที่กระปุกละ 7,700 วอน หรือประมาณ 240 บาทจ้ะ

(source: theskinfood.co.kr)

2. Gold Caviar Toner : โทนเนอร์ปลาคาเวียร์ทองคำ โห อะไรจะอลังการเบอร์นั้น คุณภาพนางก็ดีจริงๆค่ะ ในตัวผลิตภัณฑ์มีแผ่นทองคำเล็กๆผสมอยู่เบาๆด้วย ใช้เช็ดผิวเหมือนโทนเนอร์ทั่วไปเลย แต่รู้สึกได้ว่าปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น ไม่ทิ้งให้ผิวแห้งแถมยังเพิ่มความชุ่มชื้น  สำหรับไลน์โกลด์คาเวียร์นี้ ดีเลิศแทบทุกอย่างจริงๆนะ ทั้งเซรั่ม อายครีม อิมัลชั่น ต้องลองไปดูค่ะ โทนเนอร์อยู่ที่ราคา 19,000 วอนหรือเกือบๆ 600 บาทค่ะ

(source: theskinfood.co.kr)

3. All Over Muffin Cake Finish No.5 : สุดยอดของผลิตภัณฑ์ไฮไลท์และบรอนเซอร์ที่ทำให้หน้าวาวฉ่ำเป็นสาวเกาหลีอย่างสมบูรณ์แบบ! สำหรับพี่คนนี้ บอกเลยว่า แนะนำมากถึงมากที่สุด จะต้องจัดไปให้ได้ เพราะนางเป็นไฮไลท์และบรอนเซอร์แบบแป้ง ชิมเมอร์ฟรุ้งฟริ้งได้ใจมาก หลังจากลงรองพื้น ปัดแก้ม ต้องจัดพี่คนนี้เพื่อเก็บงานจริงๆ ราคาก็เพียง 13,500 วอน (400 บาทโดยประมาณ)

(source: kbeautynow.com)

มาต่อกันที่อีกหนึ่งแบรนด์ที่ฮิตไม่แพ้กัน “อินนิสฟรี” นั่นเองค่ะ ยอมรับเลยว่าแบรนด์นี้คุณภาพดีงามจริงๆ สาวๆเกาหลียกนิ้วให้ และนางก็มีหลายผลิตภัณฑ์ที่บอกได้เลยว่าแซ่บจริง จะเลือกมาแค่บางชิ้นยังยากเลย

1. No-Sebum Mineral Powder : ไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้จริงๆ กับแป้งฝุ่นคุมมันโปร่งแสงตัวนี้ นางสารพัดประโยชน์มาก ตั้งแต่ใช้ลงซับมัน เซ็ตเครื่องสำอาง ไปจนถึงเป็นอายไพร์มเมอร์ (ลงบนเปลือกตาก่อนแต่งอายแชโดว์) อีกทั้งใช้ซับความมันบนเส้นผมได้ด้วย เมื่อต้นเดือนที่เกาหลีก็ได้ออกแพกเกจสีสันสดใสมาเพื่อเป็นการฉลองครบรอบสิบปีของแบรนด์ เรียกได้ว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยทีเดียวค่ะ

(source: innisfree.co.kr / ebay.com)

2. Eco Flower Tint : ทินท์สุดที่รักที่อยากจะแนะนำให้สาวๆไปลองดูมาก นางขึ้นชื่อว่าใช้แทนกันกับ Benefit Tint ได้ด้วย ส่วนตัวคิดว่าอันนี้ดีเลิศ สีงดงามมาก ใครชอบทาปากทินท์ๆไล่สีใสๆแบบเกาหลี ก็ลองไปดูกันได้นะ

(source: innisfree.co.kr / beautysnapshop.net / zauberschwalbe.de)

3. Long Wear Cushion : เป็นหนึ่งในคุชชั่นที่ดีงามพระรามแปด แนะนำมากตัวนี้ โดยเฉพาะสาวผิวมันทั้งหลาย คุชชั่นอันนี้จะให้งานผิวแมทค่ะ เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่ค่อยชอบความมันวาว แต่อันนี้แบบผิวสวยกริบ เชียร์แรงค่ะ!

(source: innisfree.co.kr / partsofqueenie.com)

มาถึงแบรนด์สุดท้ายที่อยากแนะนำให้กับสาวๆกันแล้ว นางคือ “เดอะเฟสช็อป” ที่มีสาวสวย Suzy แห่งวง Miss A เป็นพรีเซนเตอร์นั่นเองค่ะ แบรนด์นี้อาจจะไม่ป๊อปเท่ากับสามแบรนด์ที่แนะนำไว้ แต่ก็ยอมรับว่าคุณภาพนางไม่เบาอยู่

1. Ink Lipquid : เริ่มจากงานลิปอิงค์ ที่แบรนด์นี้ทำได้ดีมาก เรียกได้ว่าเป็นสินค้าขึ้นชื่อประจำยี่ห้อนี้เลยก็ว่าได้ สินค้าก็ตามชื่อเลยค่ะ เป็นเหมือนหมึกทาปาก ที่สีเน้นชัดมากกกกกก ติดทนนาน จะทาแบบไล่สีเก๋ๆ หรือจะทาแบบเต็มริมฝีปากเลยก็ได้นะ สีของนางก็มีเยอะเหลือเกิน ราคาอยู่ที่ 13,000 วอน (400กว่าบาท) ค่ะ

(source: faceshop.com / ohfishiee.com)

2. Gelset Smudgeproof Auto Liner : เป็นอายไลน์เนอร์ในดวงใจ เรียกได้ว่าใช้แล้วไม่ผิดหวังเลย สีติดทนนาน ไม่แพนด้าค่ะ สาวๆที่มองหาอายไลน์เนอร์อยู่ น่าจะรับไปพิจารณา ราคาคุณพี่คนนี้อยู่ที่ 8,000วอน (240บาท)

(source: thefaceshop.com / hoamyphamchinhhang.net) 

หวังว่าสาวๆจะชอบข้อมูลที่นำมาฝากกันนะคะ ใครที่จะไปช็อปปิ้งก็ขอให้เลือกสินค้าอย่างสนุกสนาน อย่าลืมเลือกประเภทและสีที่เหมาะกับตัวเองด้วยละ ใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลความงาม เข้ามาคุยกันได้ทางเฟสบุคแฟนเพจของบิวตี้ มีทส์  >> BEAUTYMEETS THAILAND กันได้นะจ๊ะ พบกันคราวหน้าค่ะ!

ฮิตที่สุดในเกาหลี! เครื่องสำอางแบบแท่ง I’M MEME: I’M MULTI STICK

“เครื่องสำอางประเภทสติ๊ก” เป็นเทรนด์ใหม่ที่ได้รับความสนใจจากสาวๆในประเทศเกาหลีอย่างล้นหลาม ทุกคนคงเคยได้ยินการแต่งหน้าแบบคอนทัวร์ (Contouring makeup) กันอยู่แล้วใช่ไหมละ? สาวๆเกาหลีก็เริ่มสนใจในการแต่งหน้าแบบเพิ่มมิติมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นแบรนด์เกาหลีอย่าง I’M MEME (แอมมีมี) ก็เลยได้ออกตัวเครื่องสำอางที่มีชื่อว่า “I’M MULTI STICK” มาเอาใจสาวๆผู้รักการแต่งหน้ากันอย่างเต็มที่

แต่ที่พิเศษสุดๆก็คือคุณพี่ “มัลติสติ๊ก” หรือ แท่งสารพัดประโยชน์นี้ มันไม่ได้มีแค่คอนทัวร์อย่างเดียวนะ! นางจัดเต็มโดยมีทั้งสีของรองพื้น บลัชออน ไฮไลท์ และเฉดดิ้ง เป๊ะจริงค่ะ!

ในส่วนของ #Swatch นั้น….

อันนี้เป็นรูปภาพจากทางเว็บไซต์ของ Memebox เห็นแล้วก็ใจเต้นอยากรีบสั่งจองกันเลยทีเดียว งั้นลองไปดู swatch จากทางบ้านกันด้วยเนอะ

มาดูลักษณะของผลิตภัณฑ์กันแบบใกล้ๆอีกทีดีไหมคะ?♡

ขนาดความกว้างของนางคล้ายๆ Benefit tint ค่ะ

น่ารักน่าใช้สุดๆ

♡สำหรับวิธีการใช้งาน ก็ง่ายมากๆเลยค่ะ♡

ลงสีรองพื้นเบจสว่างหรือสีที่เหมาะกับสีผิวของตัวเองก่อนเลย ตรงนี้จะใช้สีเบจสว่างค่ะ

จากนั้นใช้สีที่เข้มขึ้นมาอีกนิด (สีเบจกลาง) ไล้บริเวณแก้มเพื่อเพิ่มมิติให้กับใบหน้า ถ้าใครใช้สีเบจกลางอยู่แล้วก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลยค่ะ

ถัดมาใช้เฉดดิ้งสติ๊กวาดลงรอบโครงหน้า

สำหรับการไล้ดั้งนั้นให้ใช้แปรงจิ้มเฉดดิ้งสติ๊กแล้วก็คอนทัวร์จมูกแบบนี้ค่ะ

ฮ่าๆๆ อย่าเพิ่งฮากับรูปนะ ต่อไปใช้ไฮไลท์โบกลงบริเวณที่อยากเพิ่มความสว่าง เราก็จะลงบริเวณข้างๆ ริมฝีปาก เหนือริมฝีปาก สันจมูก โหนกคิ้ว

ใช้บลัชออนสติ๊กสีโอรสวาดรูปหัวใจบนโหนกแก้มเลยจ้ะ

แล้วก็ใช้บลัชออนสีโครัลปาดลงบริเวณข้างแก้มเพื่อเป็นการเชื่อมสีและสร้างมิติให้สวยขึ้นค่ะ

พร้อมกับการเบลนด์กันหรือยังทุกคน?!!

ใช้บิวตี้เบลนเดอร์ หรือฟองน้ำรูปไข่ในการเกลี่ยให้ทุกอย่างเข้ากันค่ะ เริ่มจากเบลนด์สีที่สว่างก่อนนะ (ต้องยิ้มอ่อนเวลาเบลนด์ด้วยถึงจะสวย)

และผลลัพธ์ที่ได้ก็คือความปังเช่นนี้ค่ะ…!

♡♡♡

ดีงามสุดๆ♡

สำหรับสาวๆที่สนใจผลิตภัณฑ์นี้ก็ลองเช็คเว็บไซต์ของมีมี่บ็อกซ์ได้เลย คลิ๊ก!

อย่าลืมคอมเม้นบอกกันด้วยนะว่าคราวหน้าอยากให้บิวตี้มีทส์มารีวิวหรือแนะนำผลิตภัณฑ์ตัวไหนอีก สัญญาว่าจะจัดมาให้แน่นอนจ้า แล้วพบกันใหม่นะจ๊ะ เลิฟ♡

ติดตามข้อมูลความงาม แฟชั่น รีวิวเครื่องสำอาง สอนแต่งหน้าที่เข้าใจง่ายได้ทาง บิวตี้มีทส์ ไทยแลนด์ แฟนเพจ >> BEAUTYMEETS THAILAND FACEBOOK PAGE 

Special thanks to: bad_adult.blog.me & vincent_vg.blog.me & nettix.blog.me

[REVIEW] 3CE Stylenanda “Ho Balm” บาล์มสารพัดประโยชน์!

สวัสดีกันอีกครั้งค่ะ สาวๆ บิวตี้มีทส์★

วันนี้เราก็กลับมาตามคำสัญญากับ รีวิวผลิตภัณฑ์ล่าสุดจาก 3CE / Stylenanda แบรนด์เครื่องสำอางที่เรียกได้ว่ากิ๊บเก๋ที่สุดจากแดนกิมจิ ซึ่งผลิตภัณฑ์ตัวนี้น่าสนใจมากๆ ค่ะ นางคือ multi balm มัลติบาล์มสารพัดประโยชน์นี่เอง ปกติพวกเราก็จะคุ้นเคยกับมัลติบาล์มสัญชาติออสซี่กันใช่ไหมละ? คราวนี้มาลองดูกันว่า 3CE HO BALM ตัวนี้จะดีจริงหรือไม่ จะได้ไปตำกันให้ถูกนะจ๊ะ☆☆☆

แท่นแท้นนนนน~!! และนี่คือหน้าตาของเจ้า”โฮบาล์ม”ค่ะ แพ็กเกจก็น่ารักเต็มร้อยไปอีก แบรนด์นี้เขาขึ้นชื่อเรื่องแพ็กเกจอยู่แล้วเนอะ อีกทั้งนางแบบก็เก๋ไก๋ไปอีก ว่าแต่จะใช้ได้ดีไหมนะ?

ก่อนอืนมาดูกันว่านางมีส่วนผสมและสรรพคุณอะไรบ้าง☆

3CE ออกตัวว่าเจ้า “โฮบาล์ม” นี้ทำด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ 97% ซึ่งก็คือใบบัวบกนั่นเองค่ะ โดยชื่อ “โฮ” นั้นน่าจะมาจากคำว่า “โฮ รัง งี (호랑이)” ที่แปลว่าเสือในภาษาเกาหลีค่ะ แล้วทำไมต้องเป็นเสือละ? โอเค คือจริงๆแล้วใบบัวบกหรือ Centella Asiatica มีอีกชื่อเรียกว่า Tiger Grass (หญ้าเสือ) เพราะในป่าเมื่อเสือบาดเจ็บเป็นแผล มันจะชอบเอาตัวไปคลุกๆกับหญ้าใบบัวบก แผลก็จะได้รับการสมานหายเป็นปกติดี โอ้โห ดูมี story เนอะแก

มัลติบาล์มนี้ใช้ทาบริเวณผิวที่แห้ง เช่น ริมฝีปาก มือ ข้อศอก รวมไปถึงสามารถผสมกับครีมบำรุงผิวหรือรองพื้นเพื่อให้ความชุ่มชื้นได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นประมาณนี้ค่ะ ค่อนข้างชุ่มชื้นมากถึงมากที่สุด เราว่าถ้าเป็นอากาศเมืองไทยก็คงจะเหลวพอสมควรเลย เก็บไว้ในห้องที่ไม่ร้อนมากดีกว่า อ้อ กลิ่นเป็นกลิ่นสะอาดๆ เหมือนกลิ่นสบู่นะ ทาส่วนไหนก็ได้หมดเลย

คุณสมบัติแรกสุดเลยคือนางไว้บำรุงฝีปากค่ะ โดยเฉพาะก่อนแต่งหน้า ก็ทาบาล์มตัวนี้ไว้เลย จากนั้นพอจะลงลิปสติกก็เช็ดออกเล็กน้อยแล้วค่อยทาลิป แม้แต่ทาลิปแมทก็ไหวนะ ไม่แห้งกร้าน เพราะนางล็อคความชุ่มชื้นไว้อย่างดี อีกเทคนิคคือถ้าทาปากด้วยทินท์ ก็ไม่ต้องเช็ดออก จะทำให้ปากดูกลอสซี่ๆ น่าจุ๊บมาก

ถัดมาคือเราสามารถใช้โฮบาล์มนี้บำรุงเล็บและมือได้ค่ะ โดยเฉพาะเล็บที่แห้งกระด้านเป็นขลุยนี่แหละ โบกพี่เสือตัวนี้ไปได้เลย ยิ่งใช้ตอนกลางคืน ตื่นมาก็จะเห็นผลเลยนะคะ ข้อศอกก็ใช้ได้เช่นกันนะ

อีกหนึ่งคุณสมบัติที่น่าลองคือใช้ผสมรองพื้นได้ค่ะ วิธีนี้จะทำให้ได้ลุคหน้าโกลวดิวอี้ๆแบบเกาหลี ส่วนใครที่กังวลเรื่องความมันก็อาจจะต้องระวังนิดหนึ่ง แต่ว่าวิธีนี้จะเหมาะกับคนผิวแห้งมาก! งานผิวที่ได้จะไม่ใช่มันเยิ้มๆนะ จะดูมีความชุ่มชื้น สุขภาพดี แบบนี้ (รูปล่าง)

เราว่าทำให้รองพื้นที่ลงดูเรียบเนียนขึ้นเลย น่าลองเอาไปผสมกับรองพื้นที่เนื้อหนาหรือทำให้หน้าแห้งเล่นดูค่ะ

ถัดมาเป็นอีกคุณสมบัติที่เจ๋งสุดๆ แท่นแท้นนนนน~

เราสามารถทำบลัชออนแบบครีมได้โดยผสมบลัชออนแบบแป้งเข้ากับโฮบาล์มนั่นเองค่ะ! วิธีนี้ทำให้สีของบลัชออนไม่เพี้ยนไปจากเดิม (ถ้าเทียบกับการผสมกับรองพื้น) อีกทั้งหลังจากทาบลัชออนแบบครีมลงบนแก้มแล้ว ปัดอีกทีด้วยบลัชออนเป็นฝุ่นจะทำให้แก้มสีสวยติดทนนานทั้งวันด้วย รู้ใช่ไหมละ? อิอิ

อ๊ะ แถมๆ สาวๆคนไหนที่ใช้มีดโกนกันคิ้ว ก็สามารถทาโฮบาล์มนี้เวลากันคิ้วได้นะ จะช่วยลดแรงเสียดสี ทำให้การกันคิ้วนุ่มนวลขึ้น ไม่ทำให้ผิวเสียด้วยค่ะ

☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆

สำหรับราคานั้นอยู่ที่ 13,000 วอน ก็ประมาณ 390 บาทค่ะ คาดว่าสินค้าจะเข้าไทยเร็วๆนี้แน่นอน แต่ถ้าใครสนใจก็ลองดูเว็บของ Stylenanda ได้เลยนะ 

special thanks to: sinmoonji13 & lovely_eni 🙂

อย่าลืมติดตามข้อมูลความงาม อัพเดทเทรนด์แฟชั่น รีวิวเครื่องสำอาง และการสอนแต่งหน้าได้ที่แฟนเพจเฟสบุคของบิวตี้ มีทส์ ไทยแลนด์ >> BEAUTYMEETS THAILAND

แล้วพบกันใหม่นะคะสาวๆ  xoxo, beautymeets!

[REVIEW] อายแชโดว์พาเล็ทน่ารักน่ากิน Too Faced Chocolate Bon Bons Palette

ฮาโหลว ♥ วันวาเลนไทน์ก็ใกล้เข้ามาทุกที สาวๆมีแผนจะอ้อนแฟนหรือจะซื้อของขวัญอะไรให้ตัวเองหรือเปล่า? นอกจากดอกไม้สวยๆสักช่อแล้ว เราแอบรู้นะว่าจริงๆแล้วอินเนอร์ชะนีทุกคนก็ต้องอยากได้เครื่องสำอางแซ่บๆ ไว้ใช้สักอันสองอัน เอาล่ะ! เตรียมตัวให้พร้อมเพราะรีวิวครั้งนี้จะตอบโจทย์อินเนอร์ชะนีที่สุด เพราะมันคือ eye palette ดีไซน์สุดคิ้วท์ ที่กำลังจะเข้ากับ Sephora Thailand ในวันพรุ่งนี้!! (เสาร์ที่ 13 ก.พ.)ต้อนรับวาเลนไทน์ นางก็คือ Too Faced Chocolate Bon Bons Palette นั่นเองค่า ♥ ♥ ♥

เริ่มจากกล่องเลย นึกว่าช็อคโกแล็ตจริงๆนะเนี่ย

คะแนนแพกเกจนี่ เต็มสิบให้ร้อยไปเลยค่ะ ♥ กล่องเป็นสีชมพูนมเย็นทำจากโลหะ พกพาสะดวก

เปิดมาก็จะพบกับความดีงามของชีวิต กรี๊ดหนักมากค่ะ มีกลิ่นช็อคโกแล็ตเบาๆ ด้วยนะ เพราะส่วนผสมของอายแชโดว์เขาใส่ผงโกโก้ด้วยซึ่งอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ (ยิ่งใหญ่อ่ะ)

อายแชโดว์มีทั้งหมด 16 สี

งั้นเรามาดูพาเล็ทตัวสีชัดๆกันเลย♥!

Almond Truffle, Satin Sheets, Cashew Chew, Cotton Candy, Cafe Au Lait, Dark Truffle, Pecan Praline, Totally Fetch

Sprinkles, Molasses Chip, Malted, Bordeaux, Mocha, Black Currant, Earl Grey, Divinity

เฉดสีเหมือนขนมจริงๆเลยเนอะ แถมชื่อก็น่ากินสุดๆ สีมีทั้งแมทและชิมเมอร์ผสมกันไป งั้นเรามาดู swatch เต็มๆ กันเลยค่ะ♥ 

“Almond Truffle” เป็นสีน้ำตาลกลางๆค่อนไปทางโทนเย็น อมชมพูนิดๆ เนื้อแมท นุ่ม ละเอียด เกลี่ยง่าย เนื้อสีแน่นและชัดมาก เหมาะสำหรับการคัดเบ้าเพิ่มมิติให้กับเปลือกตา

“Satin Sheets” เป็นสีชมพูอ่อนอมเบจ สว่าง สีโทนอุ่น มีประกายทองที่ชัดเจน เนื้อเกลี่ยง่ายและสีชัดมาก เหมาะสำหรับไฮไลท์โหนกคิ้วและลงบริเวณหัวตา

“Sprinkles” เป็นสีชมพูอมพีช มีชิมเมอร์สีทองด้วย เบลนด์ง่าย สีหวาน ทาแค่สีเดียวก็อยู่เลยนะ เหมาะกับลุควันเบาๆ ไม่ต้องจัดหนักมาก

“Molasses Chip” เป็นสีน้ำตาลบรอนซ์ประกายทองแบบจัดเต็ม สีสวยดีงามมาก ใช้แค่สีเดียวหรือเอาไว้โบกสีร่วมกับสโมคกี้อายก็ได้นะ

“Malted” เป็นน้ำตาลช็อกโกแล็ต เนื้อเกือบแมท เบลนด์ง่าย ไม่เป็นผงหรือแข็งจนเกินไป

 

“Cashew Chew” แทบจะไม่เห็นเลยเนอะ ฮ่าๆๆ เป็นสีชมพูอมพีชอ่อน มีชิมเมอร์เนื้อซาติน เหมาะสำหรับเบลนด์เกลี่ยให้สโมคกี้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ผงค่อนข้างละเอียด เวลาใช้ควรลงไพร์มเมอร์ก่อนด้วย

“Cotton Candy” เป็นสีที่ตอบโจทย์พาเล็ทชุดนี้สุดเลย ชมพูอ่อนเหมือนสายไหม/หมากฝรั่ง มีชิมเมอร์วิบวับเหลือบสีฟ้า เป็นอีกหนึ่งสีที่น่าเล่นมากๆ

“Cafe Au Lait” หู้ย เป็นสีที่ดีงามพระรามแปดอีกแล้ว ถึงจะดูไม่ค่อยเข้ากับชื่อที่ว่ากาแฟใส่นมก็เถอะ แต่เป็นสีน้ำตาลที่มีชิมเมอร์เงินๆ กึ่งแชมเปญนิดๆ เนื้อสีแน่นดีมาก สามารถลงบนเปลือกตาได้เลย ติดทนนานด้วย

“Bordeaux” เป็นสีแดงเข้มเบอร์กันดี้ เนื้อแมท เบลนด์ง่าย เอาไว้เล่นสโมคกี้อายสวยๆค่ะ

“Mocha” เป็นสีน้ำตาลอ่อนโทนอุ่น เนื้อแมท เบลนด์ง่าย

“Black Currant” เป็นสีม่วงพลัมโทนอุ่น ประกายชิมเมอร์ด้วย แต่เนื้อถือว่าแห้งที่สุดในพาเล็ท จะเบลนด์ให้สวยต้องเกลี่ยผสมด้วยสี Almond Truffle

“Dark Truffle” เป็นสีน้ำตาลเข้ม เข้มมากกกก เกลี่ยง่าย มีเนื้อมุกผสมด้วยพอสมควรค่ะ

 

“Pecan Praline” สีนี้ชื่ออ่านยากจัง “พีแคน เพรลีน” เป็นน้ำตาลอ่อน เนื้อแมท สีอาจจะไม่ค่อยชัดมาก ต้องลงไพร์มเมอร์บนเปลือกตาก่อน เหมาะกับใช้คัดเบ้าหรือเบลนด์มากกว่าค่ะ

“Totally Fetch” เป็นสีชมพูอมม่วงฟุชเชีย สว่าง มีประกายชิมเมอร์ เนื้อสีแน่นสุดๆ

“Earl Grey” ถ้าฟังแค่ชื่ออาจจะคิดว่าน่าจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆเหมือนชาเอิร์ลเกรย์ แต่จริงๆ เป็นสีน้ำเงินเข้มเกือบดำ มีประกายด้วย แต่ว่าเนื้อแห้งมาก ต้องลงไพร์มเมอร์ก่อนแรงๆ ใช้ทำสโมคกี้ดูสวยมาก

“Divinity” เป็นสีเบจอมชมพูอ่อน เกลี่ยง่าย เนื้อแมทสุดๆ สีอาจจะไม่ชัดมาก แต่ใช้เป็นเบสได้ดี

เทียบสีให้ชัดๆ กันไปเลย ♥

เป็นไงกันบ้างคะ กรี๊ดสลบเลยล่ะซี่ ฮ่าๆๆ อย่าลืมไปดูกันได้ที่ SEPHORA Thailand วันพรุ่งนี้แล้วนะจ๊ะ ราคาอยู่ที่ 2,790 บาทค่ะ

ถ้าใครอยากดูรีวิวแบบคลิปก็ คลิ๊กเลย!

special thanks to: xsparkage, temptalia, perilouslypale 🙂

อย่าลืมติดตามบิวตี้ มีทส์ ไทยแลนด์ เพื่ออัพเดทเทรนด์ความงาม แฟชั่น รีวิวเครื่องสำอาง และวิธีการแต่งหน้าได้ทางเฟสบุคแฟนเพจ BEAUTYMEETS THAILAND นะจ๊ะ ♥

แล้วพบกันใหม่นะคะสาวๆ

xoxo, beautymeets

[REVIEW] ลิปสติกสุดหรู YSL ROUGE VOLUPTE SHINE

สวัสดีคนสวย ♥ บิวตี้ มีทส์กลับมาอีกแล้วกับการ “ปาดสด หมดเปลือก” เครื่องสำอางเด็ดที่สาวๆทุกคนอย่างครอบครอง สำหรับคราวนี้เรามากับแบรนด์ Yves Saint Laurent ซึ่งอาจจะฉีกสายเกาหลีที่เคยเป็นกันมา แต่อยากบอกว่าสีนาง #แจ่ม #เด็ด #เผ็ดร้อน ลิปสติกนี้มีชื่อว่า Rouge Volupté Shine อ่านว่า “รูจ โวลุบเต้ ชายน์” นั่นเองค่ะ :X

ก่อนอื่นมาดูรูปนางก่อน สีคือแซ่บเวอร์

#SHINE สมชื่อค่ะ

ดูดี มีสกุลลลลล

เนื้อสีของนางจะเป็นกึ่งออยล์ คือจะชุ่มชื้นมวากกกก ให้อารมณ์ทินท์ๆ ไม่ใช่เนื้อแมทหรืออะไรนะ

เอาล่ะ งั้นมาดู swatch ของแต่ละสีกันเลยดีกว่า

(โอ้ ลืมไป รีวิวนี้จัดไปโดย Kyung Sun/คยอง ซอน บิวตี้บล็อกเกอร์หน้าสวยจากเกาหลีค่ะ)

วันนี้จะมาปาดให้ดูกันถึง 6 สีเลยจ้า สำหรับรูจโวลุบเต้ชายน์ตัวนี้ จะเป็นสีชุ่มๆฉ่ำๆ เหมือนเป็นทินท์ๆ แต่เนื้อดี สีสด จะเป็นอย่างไรนั้นก็ต้องไปดูกันเลยค่า ;D

สีแรก “Rose Saint Germain” เป็นสีชมพูอมม่วง ให้ความรู้สึกหวานอมเปรี้ยวค่ะ

ทาออกมาแล้วให้ความรู้สึกสดใสแบ๊วๆ ลุคคุณหนูสุดๆ แอบกระซิบว่าหนุ่มๆ (โดยเฉพาะหนุ่มเกาหลี) ชอบผู้หญิงทาปากสีแบบนี้มากๆ

อันนี้คือสี “Orange Perfecto” เป็นสีส้มโครัลๆแบบสดใส

สีส้มแบบนี้ให้ลุคสดชื่น ไม่หวานจนเกินไป อีกทั้งเป็นสีที่ดาราเกาหลีชอบใช้กันด้วยนะ ♥

ต่อมาคือสี “Rouge Tuxedo” สีชมพูเข้มไปในโทนสีแดง แซ่บๆ แบบไม่เผ็ดจนเกินไป

เปรี้ยวมากกกกกก เป็นแดงที่ไม่แดงจัดๆๆ แต่ก็ดูแซ่บอยู่ (คยองซอนบอกเองว่านี่คือสีโปรดของนางค่ะ)

สีถัดไปคือ “Corail Incandescent”  เป็นสีแดงกึ่งโครัล ใช้ได้ในลุคประจำวันเช่นกันค่ะ

เป็นสีแบบกึ่งแดงกึ่งส้มจริงๆนะ สีปากแบบนี้แต่งไปทำงานหรือไปเรียนโอเคมากเลย ดูสดใส ไม่ป่วย แล้วก็ไม่แรงจนเกินไปด้วย

จากนั้นคือสี “Fuchsia In Rage” เป็นสีชมพูบานเย็นกึ่งม่วงๆ สวยแบบผู้ดีมีสกุล

สีนี้ทำให้ลุคดูแพงขึ้นเลยอ่ะ เป็นชมพูปนม่วงเล็กๆ #classy สุดๆ ค่ะ

สีสุดท้าย “Fuchsia Intense” เป็นสีที่เฉดม่วงที่สุดในบรรดาทุกสี แอบเหลือบๆชมพู และค่อนข้างสะท้อนแสงด้วย 

หวานแบบมีลุคขึ้นมาหน่อย สีค่อนข้างม่วงบานเย็น ถ้าใช้ออกงานกลางคืนคงแซ่บน่าดู

ปาดให้ดู เทียบชัดๆ กันอีกรอบค่ะ ♥♥♥

เป็นไงบ้าง เพื่อนๆชอบสีไหนกันบ้าง? ลองไปหาได้ที่ YSL Thailand ดูได้ค่ะ ;]

(ฝากไว้ถ้าใครอยากดูคลิปรีวิวเต็ม พร้อมฮาวทูสอนแต่งหน้าของคยองซอน คลิ๊กเลย!!)

อย่าลืมอัพเดทข้อมูลความงาม รีวิวเครื่องสำอาง แฟชั่นและไลฟ์สไตล์แบบเกาหลีได้ที่เฟสบุคแฟนเพจ BEAUTYMEETS THAILAND FANPAGE   ด้วยนะคะ♥♥♥

แล้วเจอกันใหม่บล็อกหน้าค่ะทุกคน!

xoxo, beautymeets

#เปิดคลัง 6ลิปสีแดงที่บิวตี้บล็อกเกอร์เกาหลีและไทยแนะนำ

อันนยอง! สวัสดีค่ะสาวๆบิวตี้ มีทส์ทุกคน♥ เป็นครั้งแรกที่เราจะมา #เปิดคลัง ไอเท็มที่บิวตี้บล็อกเกอร์ทั้งไทย เกาหลี ใช้และแนะนำ ตอนแรกเป็นเรื่องของลิปสีแดง (เน้นด้วยนะว่าเป็นสีแดงสด) ซึ่งเชื่อว่าเป็น Holy Grail หรือเครื่องสำอางคู่ชีวิตของสาวๆ หลายคน ยิ่งเดือนกุมภาพันธ์นี้มีเทศกาลทั้งตรุษจีนและวาเลนไทน์ เชื่อว่า #สีแดง นี่แหละน่าจะเป็นสิ่งที่หลายๆ คนกำลังมองหากันอยู่ งั้นไปดูกันเลยดีไหมเอ่ย ;;)

มาเริ่มที่ลิปสีแดงตัวแรก แนะนำโดย คิมดายอง (dayeong’s beauty drawing) คุณพี่คนนี้ก็คือ MAC – La Vie En Rouge นั่นเองค่ะ

พูดถึงลิปสติกสาวๆทุกคนก็รู้กันอยู่เนอะว่าพี่แมคเขาครองตำแหน่งแชมป์อันยิ่งใหญ่ สำหรับตัวนี้จะเป็นสีแดงสดกึ่งๆชมพู ซึ่งทาเป็นลิปไล่สีสไตล์เกาหลีหรือจะทาเต็มๆแบบ Full Lips ก็สวยเผ็ดมาก ดายองแนะนำแรงๆ

หน้าตาผลิตภัณฑ์เป็นแบบนี้ค่ะ

ปาดสีออกมาให้ดูกัน

ดูชัดๆกันไปเลย

ต่อมาเป็นลิปสติกสีแดงสดอีกเช่นกัน แนะนำโดย คยองซอน (Kyung Sun) บิวตี้บล็อกเกอร์แดนกิมจิคนสวย ลิปที่เธอแนะนำก็คือ SHU UEMURA – Diva Red

สีลิปตัวนี้จริงๆแล้วสว่างมากเลยค่ะ เป็นสีแดงเหลือบส้ม ซึ่งคยองซอนบอกว่าชอบมาก เพราะต่างจากลิปสีแดงอื่นๆ ที่จะคล้ำๆ (ถ้าชอบแดงสด ก็ต้องตัวนี้เลย) แถมเนื้อก็ทาง่ายเกลี่ยง่ายด้วยค่ะ

ลุคที่ได้ก็จะเป็นประมาณนี้ อยากบอกว่าถึงหน้าเปลือยแต่ปาดสีนี้ก็แจ่มแบบเซเล็ปแล้วจริงๆ อย่าแต่งตาเยอะมาก

ถัดมาเปลี่ยนบรรยากาศเป็นลิปทินท์กันบ้างค่ะ ตัวนี้เป็นไอเท็มโปรดของบิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดังสัญชาติเกาหลีออสเตรเลีย Meejmuse (เจนนิเฟอร์) ลิปทินท์อันนี้คือ NATURE REPUBLIC Shine Tint #1 Shine Red

ลิปทินท์เป็นเหมือนไอเท็มประจำชาติของเกาหลีจริงๆ ยิ่งพวกลุคลิปไล่สี คือต้องใช้พี่ตัวนี้แล้วจะแจ่มมาก เจนนิเฟอร์รีวิวว่ากลิ่นหอมและรสชาติอร่อยเหมือนกินไอศกรีมสตรอเบอรี่ (พูดแล้วหิว) สีจะออกแดงอมส้มๆ

เนื้อจะเป็นครีมๆนิดหนึ่ง สีก็ตามที่เห็นในภาพเลย

จากนั้นเราจะมาเปิดคลังของบิวตี้บล็อกเกอร์ฝั่งไทยกันบ้าง LET’S GO!!

กรี๊ดดดดด กราบสวัสดีขุ่นแม่ โมเมพาเพลิน สำหรับไอเท็มที่โมเมเลือกสำหรับลุคลิปแดงสุดแซ่บก็คือตัวนี้เลยค่ะ BITE BEAUTY Matte Creme Lip Crayon #Edie

เป็นลิปดินสอนั่นเองค่ะ เขียนง่าย เวลาลงจะต้องวาดขอบปากก่อนแล้วค่อยเติมสีนะ ถึงจะสวย

อู้ยยย สีสดได้ใจจริงๆ ♥♥♥

ถัดมาเป็นลิปสีแดงที่คุณหน่องเม หรือ Mayy R (เมอาร์) เลือกสำหรับลุคสีแดงสไตล์นางร้ายในละคร นั่นก็คือ BISOUS BISOUS Chateau de Glamour Lipstick #Red ค่ะ

แพกเกจสวยดูดีมีสกุลมากเลยเนอะ

ดูตัวโปรดักกันชัดๆ สีเป็นแดงสดอมส้ม

ปาดสีออกแล้ว แดงสดงดงามมากค่ะ สีแบบว่า อื้อหือออออ #เผ็ดร้อน

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด บิวตี้บล็อกเกอร์สาวไทยหน้าคม อาชิ จาก Archita Station แนะนำลิปไลน์เนอร์ของ ESSENCE Lip Liner – Femme Fatale 

สาวอาชิถึงกับยืนยันว่าไอเท็มนี้ “ถูกและดี” จริงๆเหมาะกับการใช้ร่างขอบปากก่อนลงสีแดงแบบเต็ม หรือใครจะระบายทั้งปากเลยก็ได้ แต่ระวังมันจะแห้งไปนะ

หน้าตาของผลิตภัณฑ์เป็นแบบนี้ค่ะ

ใช้ลิปไลน์เนอร์วาดขอบปากแบบนี้ (สำหรับสีที่ทาเต็มๆ แอบกระซิบให้ละกันว่าคือ MAC Russian Red แดงสดงดงามเช่นกันค่ะ #adminใช้เอง ครุคริ)

และนั่นก็คือการเปิดคลังลิปแดงแนะนำโดยสาวๆบิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดังนั่นเองค่า เพื่อนๆ ชอบตัวไหนกันบ้าง? อย่าลืมคอมเม้นบอกกันด้วยนะ สำหรับเปิดคลังครั้งหน้าอยากให้เล่าสู่กันฟังเรื่องผลิตภัณฑ์ตัวไหนก็บอกกันได้เลย #kiss ♥ 

ติดตามแฟนเพจบิวตี้มีทส์ ไทยแลนด์เพื่ออัพเดทข้อมูลความงาม แฟชั่น รีวิวเครื่องสำอางจากเกาหลีได้ที่: BEAUTYMEETS THAILAND FACEBOOK PAGE

พบกันตอนหน้านะคะสาวๆ xoxo, beautymeets

#REVIEW ♥Etude House♥ Play Color Eyes Juice Bar สีเปรี้ยวแซ่บรับซัมเมอร์

อันยองงงงงงงง♥

วันนี้บิวตี้ มีทส์ นำรีวิวอายแชโดว์พาเล็ทล่าสุดของอีทูดี้ เฮาส์ มาฝากจ้า นั่นก็คือ “Play Color Eyes Juice Bar” ซึ่งอยากบอกว่า #exclusive มากเพราะตอนนี้วางขายแค่ออนไลน์เท่านั้น แต่เราใจร้อนก็อยากจะมาปาดและรีวิวให้เพื่อนๆฟัง ใครพร้อมแล้วไปดูกันเล้ย~!

เอาล่ะก่อนอื่นมาดูกันนะว่ามีสีอะไรบ้าง

ทั้งหมดมี 10 สี เน้นเป็นโทนสีส้มๆชมพูๆ เหมือนกับน้ำผลไม้โนะ!

สีที่มีหัวใจแปะไว้เป็นสีที่ออกใหม่ นอกนั้นเป็นสีที่มีอยู่แล้วซึ่งสามารถหาซื้อเป็นตลับแยกๆค่ะ

ชื่อของแต่ละสีเป็นภาษาเกาหลีแบบว่ามุ้งมิ้งมาก บางทีก็เรียกเป็นภาษาอังกฤษยากเหมือนกัน ㅠ_ㅠ

แพกเกจหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ ตลับสีส้มอมชมพู ฟรุ้งฟริ้งสไตล์อีทูดี้

เปิดออกมาก็จะเป็นแบบนี้ค่ะ จริงๆ มีแปรงสองหัวมาให้ด้วย (ให้มา2อัน) แต่ว่าพี่คนนี้ fallout รุนแรงมากค่ะ คือผงอายแชโดว์หล่นง่ายมากกกก ดังนั้นแนะนำให้ใช้นิ้วในการทา แล้วก็อย่าลืมลงอายไพร์มเมอร์บนเปลือกตาก่อนเด็ดขาด! ไม่งั้นไหลชัวร์ๆ

ปาดมาเล้ยจ้ะ สีแรก #로우카카오 ภาษาไทยก็อ่านง่ายๆ “โลวคาเคา”

เป็นสีน้ำตาลเข้มที่สุดในพาเล็ท เกือบแมทค่ะ มีประกายนิดดดดดดเดียวจริงๆ

สีที่สอง #생자몽타르트 อ่านว่า “แซง-ชา-มง-ทา-รึ-ทึ” หรือ Grapefruit Tart นั้นเองค่ะ

เป็นสีชมพูโครัลที่ฮิตมากในฤดูร้อนที่เกาหลี ทาบางๆทั่วเปลือกตาจะได้ลุคใสๆ+สดชื่น เป็นเนื้อแมทค่ะ

สีต่อมาคือสี #말랑복숭아 ออกเสียงว่า “มัล-ลัง-บก-ซุง-งา” หรือสี Soft Peach

โอ่ย ซอฟต์สมชื่อเชียวนะแก 5555 สีนี้เหมาะกับการใช้เป็นเบสมากค่ะ คือต้องทาหลายครั้งมากถ้าอยากให้สีชัด มันเป็นชิมเมอร์ชมพูอ่อนๆ ไว้ลงเป็นเบสน่าจะเหมาะสุดแล้วล่ะ

ปาดกันต่อกับสี #오렌지필 หรือ Orange Peel นั่นเอง จริงๆ สีนี้เป็นหนึ่งในตลับคอลเลคชั่น Blend For Eyes #2 Orange Party มาก่อน เป็นสีที่สวยมาก ใช้กับ everyday look ได้สบายๆ เลย ทาง่าย เกลี่ยง่ายด้วยค่ะ

ว้าว สีนี้คือให้หัวใจร้อยดวง♥♥♥ #머슬마니아 หรือ Muscle Mania แหม่ ถูกใจทั้งชื่อทั้งสี 55555

เป็นสีที่แบบว่าทาตัวเดียวจบ เก็บหมด สายเกาหลีมาก บิวตี้บล็อกเกอร์หลายคนก็แนะนำเช่นเดียวกันค่ะ

สีต่อมาเป็นสีออกใหม่อีกแล้วจ้า ชื่อว่า #오렌지비앙코 หรือ Orange Bianco เอ๋ ทำไมแอบเหมือนของ Missha ละเนี่ย เรื่องนี้เจ๊ไม่ขอยุ่งละกันนะฮะ แต่สีแจ่มใช้ได้ เหมือนสีอิฐเลย เห็นเหมือนน้ำตาลแบบนั้น แต่ทาออกมาแล้วสีจะออกส้มๆ ก็ลองดูกันนะคะ

ต่อมาเป็นสีที่บอกความเป็นพาเล็ทนี้ได้ดีที่สุด #피버오렌지 หรือ Fever Orange นั่นเองค่ะ

สีส้มจี๊ดจ๊าดมากอ่ะ เหมาะกับใช้เป็นพ้อยท์ คือทาหางตากิ๊บเกร๋ เข้ากับซัมเมอร์สุดๆ แต่ระวังผงแชโดว์หลุดร่วงนะ

ต่อมาเป็นสีโรสโกลด์ (แหม่ะ ชั้นนึกถึงไอโฟน) คือชมพูทองๆ ประกายสวยงามพระรามเก้า ชื่อว่า #키싱미키싱구라미 เรียกว่า Kissing Me หรือ Kissing Gourami สีนี้ใช้นิ้วทาจะดีงาม ชิมเมอร์ดีเลิศค่ะ

เขาโม้กันมาว่าสีนี้เหมือนบลัชออนของ NARS – Sex Appeal ค่ะคุณผู้โชมมมม ชื่อของพี่เขาคือ #새로운레시피 (เซ-โร-อุน-เร-ซิ-พี) หรือ New Recipe นั่นเอง สีนี้เหมาะกับเอามาปัดแก้มมากกว่าทาตาอีกนะ

สีสุดท้ายแล้วจ้า สีนี้พูดตรงๆ ชื่อกระแดะมากเลยคุณผู้ชม มันคือ #향초켜고거품목욕 แปลว่า “จุดเทียนหอมแล้วแช่ตัวลงอ่างอาบน้ำที่เต็มไปด้วยฟองสบู่” คำแปลเบอร์ไหนอ่ะให้ทาย 55555 แต่ชื่ออิ๊งของนางว่า Bubble Shower/ Bubble Bath เป็นสีที่…งงมากว่ามาอยู่ในพาเล็ทนี้ได้ไง นอกจากสีจะไม่เข้าคอนเซปต์กับชาวบ้านเขาแล้วยังแอบใช้ยากด้วยค่ะ เป็นประกายล้วนๆๆแทบจะไม่มีสีเลยอ่ะ ใครมีเทคนิคเอาไปเล่นก็มาบอกต่อกันด้วยเนอะ

ให้ดูครบทุกสีเลยค่ะ แอบอยากบอกว่าสีที่โชว์ในเว็บเพจของอีทูดี้แอบปรับให้สว่างและเข้มกว่าของจริงอ่ะ

แต่ยังไงก็อยากให้เพื่อนๆได้ไปลองเองนะคะ

ราคาตอนนี้อยู่ที่ 22,000 วอน ก็ประมาณ 660 บาท มีสั่งซื้อออนไลน์ได้แล้วจ้า 😀

♥ลุคที่ได้จากการใช้พาเล็ทตัวนี้♥

ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะคะ แล้วจะนำรีวิวมาฝากกันอีก ถ้าชอบก็อย่าลืมแชร์หรือคอมเม้นกันเยอะๆนะ

ขอบคุณคลิปจาก woorinworld (ดูคลิปเต็มกันได้จ้า)

ติดตามข้อมูลความงาม เทรนด์ แฟชั่น รีวิวเครื่องสำอางส่งตรงจากเกาหลีได้ทาง

แฟนเพจบิวตี้ มีทส์ >> www.facebook.com/beautymeetsthailand

xoxo, beautymeets