5 ครีมบำรุงผิว แนะนำโดยบิวตี้บล็อกเกอร์เกาหลีตัวแม่!

00

สาวๆ คนไหนที่กำลังมองหาครีมบำรุงผิวหน้าดีๆ ต้องรีบอ่านเลยนะตัวเธอ!

บิวตี้ มีทส์ ได้รวบรวมครีมบำรุงผิวที่บิวตี้บล็อกเกอร์เกาหลีตัวแม่อย่าง Dasha Kim, Meejmuse, Yeondukong etc. แนะนำมาให้สาวๆ ได้ลองมีไอเดียในการเลือกซื้อ ทั้งนี้ควรจะเทสผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับตัวเองด้วยนะจ๊ะ ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย!

Dr. Jart+ Ceramidin Cream

02

01

ครีมบำรุงเข้มข้นนี้มีส่วนผสมของเซรามายซึ่งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นอย่างเต็มที่ อีกทั้งแบรนด์ Dr. Jart+ ก็ได้รับความนิยมสุดๆ ในเกาหลี ขนาดบิวตี้บล็อกเกอร์อย่าง ดาช่า คิม ยังเลือกใช้เลย โดยเฉพาะตัวที่เป็นครีมแบบหลอด แต่ก็แนะนำด้วยว่าสาวผิวมันอาจต้องระวังเพราะอาจจะออยลี่เกินไป ดังนั้นลองดูแบบลิควิดที่เป็นขวดที่เนื้อครีมจะมีความเบากว่า (Ceramidin Cream ราคา 2090 บาท / Ceramidin Liquid ราคา 1790 บาท)

Klairs Midnight Blue Calming Cream

04

03

ต่อมาเป็นครีม Klairs Midnight Blue Calming Cream แนะนำโดยบิวตี้บล็อกเกอร์สุดน่ารัก “ยอนดูคง” ครีมนี้เป็นแบรนด์จากเกาหลี มีเนื้อเข้มข้น กลิ่มอโรม่าทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เนื้อครีมเป็นสีฟ้าด้วย แปลกดีแต่ใช้แล้วจะทำให้ผิวชุ่มชื้นและแต่งหน้าติดทนนานมากขึ้น (24.50USD)

Belif The True Cream Aqua Bomb

06

05

อีกหนึ่งครีมที่เหมาะกับสาวผิวมันคือ Belif The True Cream Aqua Bomb แนะนำโดย เจนนิเฟอร์ หรือ Meejmuse เนื้อครีมเป็นเจล แต่ให้ความชุ่มชื้นได้เต็มที่ ทำให้ผิวหน้ารู้สึกสดชื่น ใช้เป็นเดย์ครีมก็ดีเลิศเลอ (ราคา 1229 บาท)

illi Ceramide Ato Cream

07

08

เป็นอีกหนึ่งครีมสายเกาหลีที่พลาดไม่ได้จริงๆ แบรนด์ illi (อิลลี) นี้มีดาราตัวแม่อย่างจอนจีฮยอนเป็นพรีเซ็นเตอร์ เนื้อครีมบำรุงชุ่มชื้นอย่างดี เรียกได้ว่าไม่ต้องใช้ตัวบำรุงอื่นเพิ่มเติมให้เยอะแยะเลย บิวตี้ บล็อกเกอร์ คิมดายอง ใช้บำรุงก่อนนอนเป็นประจำค่ะ หากใครได้ไปเที่ยวเกาหลีต้องแวะซื้อที่ร้าน ARITAUM หรือไม่ก็จัดพรีออเดอร์กันได้เลย (ราคา 28000 วอน หรือประมาณ 890 บาท)

AVENE Cicalfate Repair Cream

10

09

ใครมีสิว ผิวพัง ฟังทางนี้เลยจ้า ครีมตัวนี้การันตีโดยสาวเกาหลีและบิวตี้ยูทูปเบอร์สุดฮ็อตอย่าง เจนนี่ ครัช ก็ยืนยันด้วยตัวเองเลยว่าสามารถพิชิตความพังของผิวได้ภายในข้ามคืน เนื้อครีมเข้มข้น แต่สาวผิวมันก็พอจะใช้ได้อยู่นะ ใครที่ผิวมีปัญหาเรื่องสิว รอยแดง ต้องลองเลยค่ะ (ราคา 1426 บาท)

อย่าลืมติดตามข่าวสารเกี่ยวกับความงาม แฟชัน สุขภาพ เครื่องสำอาง ส่งตรงจากเกาหลีเพื่อสาวไทยได้ทาง บิวตี้ มีทส์ ไทยแลนด์ นะคะ

5 ครีมบำรุงผิว แนะนำโดยบิวตี้บล็อกเกอร์เกาหลีตัวแม่!

มาสร้างผิวโกลวทั้งใบหน้าและลำตัว สวยสู้หน้าร้อนกันเถอะ!

00

HELLO PRETTIES!

ช่วงนี้อากาศบ้านเรามันช่างร้อนระอุ เดินข้างนอกแทบจะไม่ได้ แดดแรงขนาดนี้ ทอดไข่น่าจะสุกเลยใช่ไหมละ! เชื่อเลยว่าสาวๆ หลายคนคงจะต้องโบกครีมกันแดด หรือไม่ก็ขอจำศีลในห้องแอร์เสียดีกว่า เอาล่ะๆๆ ถึงเวลามาเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส ในเมื่อซัมเมอร์ไทยแลนด์มันช่างฮ็อตขนาดนี้ เรามาสร้างลุคสวยให้เข้ากับบรรยากาศกันหน่อยดีไหม

01

หลายคนคงเคยเห็นหรือได้ยินเทรนด์ผิวสวยอย่าง Sun-kissed skin กันใช่ไหม?  มันช่างเป็นเทรนด์ที่งดงามและเซ็กซี่สุดๆ เป็นการเน้นความโกลวของผิว มีความแทนหรือบรอนซ์นิดๆ ราวกับแสงแดดได้จุมพิศบนผิวสวยๆของเรา (เล่นใหญ่มาก) วันนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีการแต่งหน้าและผิวให้ดูมีความวาวและมีมิติ อีกทั้งทำให้ดูผอมเพรียวลงด้วยนะ

ขอบคุณข้อมูลจากบิวตี้ บล็อกเกอร์ Dasha Kim

ใครอยากดูเป็นคลิปก็ คลิ๊ก! ได้เลย

เครื่องสำอางที่ใช้ครั้งนี้ทั้งหมดมาจาก Benefit
Hello Flawless Oxygen Wow Foundation
Hello Flawless Powder
Dew The Hoola
Shy Beam
Hoola Box O’Powder
Browzing Kit
High Brow
They’re Real Push-Ip Liner
BADgal Waterproof Mascara
Chacha Tint
Chacha Balm
Hoola Zero Tanlines Body Bronzer
Sun Beam

มาเริ่มกันเลย!

02ก่อนอื่น ลงรองพื้นให้ทั่วใบหน้าและลำคอ

03

จากนั้นใช้ครีมคอนทัวร์ปาดลงโหนกแก้ม คาง ขอบหน้าผาก ข้างสันจมูก รวมไปถึงกระดูกลำคอด้วยค่ะ

04

ตามด้วยลงไฮไลท์บริเวณหน้าผาก สันจมูก ใต้ตา เหนือริมฝีปากและคางค่ะ

05

ใช้ฟองน้ำเบลนด์ไฮไลท์ก่อนเลย อย่าถูเด็ดขาดลยนะ ให้ใช้วิธีกดๆ แตะๆ ค่ะ จะดูโกลวอย่างเป็นธรรมชาติ 

06

แล้วตามด้วยการเบลนด์คอนทัวร์

07

จากนั้นเซ็ตเมคอัพด้วยแป้งฝุ่นผสมรองพื้นค่ะ

08

ใช้บรอนเซอร์แบบฝุ่นลงบริเวณที่คอนทัวร์ไว้แล้ว เพื่อให้ผิวดูสุขภาพดียิ่งขึ้น

09

ใช้บรอนเซอร์ตัวเดียวกันไล้ข้างสันจมูกและเพิ่มมิติให้กับเปลือกตาด้วยค่ะ

10

วาดคิ้วกันเลยค่ะ งานฝรั่งต้องมานะ เขียนให้เส้นโก่งๆหน่อย

11

ใช้ดินสอไฮไลท์สีขาวมุกในการไฮไลท์โหนกคิ้วค่ะ จะทำให้ลุคดูเฉี่ยว คม และเป๊ะปังยิ่งขึ้นเลยนะ

12

ส่วนงานตานั้นง่ายมาก กรีดอายไลน์เนอร์ให้คมๆเก๋ๆ ก็พอแล้วค่ะ

13

โอ๊ะ! ปัดมาสคาร่าหน่อยนึงก็ได้ ขนตาจะได้ปังๆ ยิ่งขึ้น

14

ลุคนี้งานปากเราจะไม่เล่นใหญ่ค่ะ ใช้ทินท์สีส้มทาลงด้านในแล้วเกลี่ยให้เป็นธรรมชาติ

15

และถ้าอยากได้ปากกลอสซี่น่าจุ๊บ ทาลิปบาล์มซ้ำอีกครั้งก็เก๋ไปอีกค่ะ

16

17

งานใบหน้าเสร็จไปแล้ว เราจะมาแปลงโฉมให้กับผิวกายบ้างค่ะ ใช้แทนไลน์บรอนเซอร์ทาลงบริเวณ ไหล่ แขน ขา และเหนือเนินอก ทำให้ผิวบ่มแดดเป็นธรรมชาติ

18

จากนั้นใช้ไฮไลท์สีบรอนซ์โกลด์แต้มบริเวณไหปลาร้าและหัวไหล่

19

เกลี่ยให้ได้งานผิวผ่องราวกับนางเงือกผุดออกมาจากมหาสมุทรกันเลยทีเดียว

 21

22

20

เท่านี้ก็ได้ลุคสวยไว้สะกดทุกสายตากันแล้วจ้า

อย่าลืมติดตาม BEAUTYMEETS THAILAND เพื่ออัพเดทเทรนด์แฟชั่น ความงาม รีวิวเครื่องสำอางกันนะคะ XD

xoxo, beautymeets

มาสร้างผิวโกลวทั้งใบหน้าและลำตัว สวยสู้หน้าร้อนกันเถอะ!

5 เทคนิคเด็ด! รักษาสิวให้หน้าใสแบบสาวเกาหลี

มาแล้วตามคำขอ! บิวตี้ มีทส์ หอบหิ้ววิธีและผลิตภัณฑ์ที่สาวๆเกาหลีใช้รักษาสิวเพื่อที่สาวไทยจะได้ลองนำเทคนิคไปใช้กันได้ด้วย แต่อย่าลืมนะว่าผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน เวลาจะเลือกผลิตภัณฑ์อะไรก็ต้องดูให้เหมาะสมกับผิวตัวเองด้วยนะจ๊ะ งั้นเราไปดู 5 เทคนิคเด็ดกันเลยดีกว่า!

00

1) เช็ดเครื่องสำอางด้วย Cleansing Water ที่มีส่วนผสมของน้ำมันต้นชา

01

วิธีเลือกคลีนซิ่งวอเตอร์ที่ดี ควรจะมีส่วนผสมของ Tea Tree (น้ำมันจากต้นชา) อยู่ด้วยค่ะ เพราะทีทรีออยล์นี้ช่วยรักษาสิวได้เป็นอย่างดีเลย อย่างที่เกาหลีก็มีหลากหลายแบรนด์ให้เลือก แบรนด์ที่ทำคะแนนได้ดีก็จะเป็น The Saem Healing Tea Garden Tea Tree Cleansing Water เหมาะมากกับสาวผิวมัน อย่าลืมว่าถ้าวันไหนแต่งตาแต่งปากหนัก ก็ต้องใช้ Lip & Eye Remover ด้วยนะจ๊ะ ไม่งั้นเครื่องสำอางสะสมค้าง ผิวเสียยิ่งกว่าเดิมอีกนา

2) ล้างหน้าเสร็จไม่พอ ต้องเช็ดด้วยโทนเนอร์เสมอ

02

อย่างทีทุกคนทราบกันดี การบำรุงผิวของสาวเกาหลีนั้นละเอียดหลายขั้นตอนมาก การเช็ดผิวด้วยโทนเนอร์หลังจากล้างหน้าก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญสุดๆ เพราะจะช่วยเช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ยังตกข้างบนผิว อีกทั้งช่วยกระชับรูขุมขนด้วย สำหรับโทนเนอร์ที่แนะนำโดยบิวตี้บล็อกเกอร์อย่าง Jenny Crush ก็คือ URIAGE Hyseac Cleansing Water ซึ่งเหมาะกับสาวผิวมัน สามารถใช้เทคนิคโดยการหยดโทนเนอร์ลงบนสำลี แล้วแตะให้ชุ่มๆบนบริเวณที่เป็นสิวผื่น ใช้ไปสักพักจะเห็นผลทันทีว่าสิวผดผื่นจะหายจางลง

อีกไอเท็มหนึ่งที่ฮฺ็อตฮิตสุดๆในปีนี้คือ COSRX One Step Pimple Clear Pad ซึ่งเป็นเหมือนแผ่นทำความสะอาดผิว ข้างในกระปุกจะมีแผ่นสำลีบางๆชุ่มน้ำที่ช่วยกำจัดสิว หลังจากล้างหน้าเสร็จแล้ว สาวๆเกาหลีหลายคนก็จะใช้แผ่นนี้แหละ เช็ดให้ทั่วหน้าเบาๆเลย ถ้าใครอยากดูรีวิวก็ต้องติดตามกันที่ บิวตี้ มีทส์ เฟสบุคเพจ นะจ๊ะ!

3) มาส์กหน้าก็สำคัญ!

03

การมาส์กหน้าเป็นเหมือนหนึ่งในกิจวัตร แทบทุกวันของสาวๆ เกาหลีเลยก็ว่าได้ ถ้าช่วงไหนที่ผิวค่อนข้างพัง ก็มักจะเลือกมาส์กหน้าที่มีส่วนผสมของทีทรี อย่างแบรนด์ Mediheal และ Innisfree ก็ถือว่าขึ้นชื่อพอสมควรเลย หรืออีกสูตรหนึ่ง (ซึ่งแพงขึ้นมาหน่อย) ก็จะเป็น มาดิคาสโซไซด์ (madecassoside) ซึ่งเป็นสารที่พบในใบบัวบก ช่วยสมานแผลได้เป็นอย่างดี หนึ่งสัปดาห์ควรมาส์กหน้าประมาณ 3-4 ครั้ง จะเห็นผลเมื่อทำต่อเนื่องค่ะ ดังนั้นเวลาสาวๆ ซื้อมาส์กหน้าไปลอง หากจะให้เห็นผลจริงก็ควรซื้อสัก 4 แผ่นขึ้นไป (สูตรเดียวกันนะ) แล้วใช้อย่างต่อเนื่อง จะดีที่สุดเลยจ้า

4) เลือกครีมบำรุงผิวให้เหมาะสม

04

ในส่วนของครีมนั้น Dr.Jart+ (ด็อกเตอร์จาร์ต) ซึ่งเป็นแบรนด์เวชภัณฑ์ของเกาหลี ก็โด่งดังมากในส่วนของครีม Ceramidin Cream ครีมตัวนี้ทั้งสาวไทยและสาวเกาหลียืนยันว่าใช้แล้วผิวดีขึ้น สิวหายน้อยลง ด้วยส่วนผสมของเซราไมด์ช่วยทำให้ผิวแข็งแรง ปกป้องสิ่งสกปรก อีกทั้งช่วยลดการสูญเสียของน้ำอีกด้วย แต่ถ้าใครอยากมองหายี่ห้ออื่น ก็แนะนำ Nature Republic Help Ceramide Cream หรือแบรนด์อื่นที่มีส่วนผสมคล้ายๆกันค่ะ

5) ใช้แผ่นแปะสิว ป้องกันสิ่งสกปรก

05

แผ่นแปะสิว หรือ Spot Patch เป็นไอเท็มที่คนเกาหลีนิยมใช้กันมากค่ะ แบรนด์ชื่อดังอย่าง Etude House ก็มีแผ่นแปะสิว AC Clinic Intense Pink Powder Spot Patch ที่เรียกได้ว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่า อย่างสาวไทยก็น่าจะคุ้นเคยกับแบรนด์ Nexcare กันใช่ไหมเอ่ย? ที่เกาหลีก็ฮิตไม่แพ้กัน วิธีใช้แผ่นแปะสิวหรือแผ่นซับสิวนี้ สามารถแปะบริเวณหัวสิวแล้วก็ออกจากบ้านได้เลย เพราะจะช่วยปกป้องสิ่งสกปรกที่อาจจะทำให้สิวยิ่งอักเสบมากขึ้น อีกทั้งทำให้ใบหน้าดูน่ามองขึ้น เพราะมีแผ่นปกปิดสิวไว้นี่เอง ลองไปเลือกดูกันได้เลยนะจ๊ะ

อย่าลืมติดตามเพจเฟสบุคบิวตี้มีทส์ ไทยแลนด์ เพื่ออัพเดทเทรนด์แฟชั่น การแต่งหน้า รีวิวเครื่องสำอาง ส่งตรงจากเกาหลีด้วยนะคะ  >> BEAUTYMEETS THAILAND FANPAGE

5 เทคนิคเด็ด! รักษาสิวให้หน้าใสแบบสาวเกาหลี

“เครื่องสำอางเกาหลี” แบรนด์ไหนมีอะไรดี? มาดูกัน!

00

อันยองฮาเซโย! สาวๆคนไหนรักการช็อปปิ้งเครื่องสำอางบ้าง? แน่ะๆๆ ห้ามแอ๊บเด็ดขาด! รู้นะว่าชอบกันทุกคน ;P เชื่อเลยว่าการช็อปปิ้ง (หรือแม้แต่ไปเดินเลือกๆเล่นๆก็ตาม) ช่างเป็น therapy ให้กับสภาพจิตใจของพวกเราได้ดีจริงๆ! วันนี้บิวตี้ มีทส์ เลยจะมาแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อสุดซู้ดดดด ของแต่ละแบรนด์สายเกาหลี ใครที่เป็นมือใหม่หัดช็อป ก็ต้องดูด่วน จะได้รู้ว่าแบรนด์ไหนมีอะไรดี หรือใครที่เซียนอยู่แล้วก็ดูได้นะ เพราะนี่เป็นฉบับอัพเดทสุดๆไปเลย

01

มาเริ่มกันที่แบรนด์ยอดฮิตในสายเกาหลีอย่าง ETUDE HOUSE หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า “อีทูดี้” กันเลยดีกว่า ต้องบอกไว้เลยว่าแบรนด์นี้จะค่อนข้างเด่นในเรื่องของเครื่องสำอางประเภทสีมากกว่าสกินแคร์พอสมควร โดยเฉพาะในส่วนของลิป ถือได้ว่ากระชากใจสุดๆ คุณภาพใช้ได้ สีสดใสซาบซ่า แบรนด์นี้เป็นที่นิยมในหมู่นักเรียนนักศึกษาที่เกาหลีเป็นพิเศษค่ะ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ถือได้ว่า “เริ่ด” ของนางก็มี 3 อย่าง ดังนี้เลยจ้า

  1. Play 101 Stick Contour Duo : คอนทัวร์สติ๊กไว้ใช้ไล้ดั้ง เฉดดิ้งหน้าและไฮไลท์ ถือได้ว่าเป็นแบรนด์เกาหลีเริ่มแรกผลิตสินค้าสายนี้เลย เพราะสาวๆเกาหลีปกติเขาไม่คอนทัวร์หน้ากันเท่าไรหรอก แต่งานนี้ถือว่าทำดี เนื้อครีมนุ่ม เกลี่ยง่าย แต่คิดว่าหัวสติ๊กแอบเล็กไปหน่อย (แต่ว่าใช้ไล้ดั้งได้ดีมากเลย) ใครเป็นสายเฉดดิ้งหน้าต้องลองไปดูกันค่ะ ราคา 12,000 วอน (ประมาณ360บาท) เท่านั้นเอง

02

duo_img2 (1)

(source: etudehouse.co.kr)

2. Lash Perm Curl Fix Mascara : นางคือมาสคาร่าที่ขึ้นชื่อในการทำให้ขนตางอนเด้งดึ๋งเป็นรูปตัว C สาวเกาหลีก็ชอบใช้กันมากค่ะ ราคา 12,000 วอน (ประมาณ360บาท) มีหลายสีด้วยนะ ตั้งแต่สีดำ น้ำตาล พลัมเบอร์กันดี้ และชมพู! อย่าเพิ่งตกใจไป อาจจะฟังดูแปลก แต่ว่าก็กิ๊บเก๋สุดๆ ไม่เชื่อลองดูรูปได้ค่ะคู้นนนนนนน

Screen Shot 2015-07-08 at 12.10.07 PM

Untitled-2

(source: etudehouse.co.kr)

3. Color in Liquid Lips Juicy : เป็นลิปทินท์สีสดติดทนนานที่เพิ่งออกมาใหม่ล่าสุดไม่นานมานี้ ความแจ่มของสีนางต้องให้โล่จริงๆค่ะ เพราะแบรนด์ไหนก็สู้ไม่ได้เลย นางมีถึง 10 สีเลยนะ! สำหรับสีมิ้นท์ที่ทำให้หลายคนตกใจ จริงๆแล้วพอทาออกมานางจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูอมม่วงๆ ราคาก็เพียงอันละ 9,500 วอน (เกือบๆ 300บาท) ภาพด้านล่างเป็นส่วนหนึ่งของตัวอย่างเท่านั้น ใครอยากดูเพิ่มก็ไปเช็คเว็บไซต์ ETUDE HOUSE โลดจ้า

캡처

캡처1

(source: etudehouse.co.kr)

03

ตามติดมาด้วยแบรนด์ในดวงใจสาวไทยทุกคน Skinfood สกินฟู้ดนางขึ้นชื่อเรื่องสกินแคร์เป็นอย่างดีค่ะ ด้วยคอนเซปต์การใช้ผักผลไม้ของกินได้มาทำเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง “เพื่อให้อาหารกับผิว” สำหรับท็อปไอเท็มที่เลือกมาก็มีดังนี้จ้า

1. Black Sugar Mask Wash Off : อันนี้ต้องขอเสียงปรบมือให้นางจริงๆ เพราะฮิตจนได้รางวัล SURE Beauty Awards และเป็นที่ยอมรับของสาวๆเกาหลีแทบทุกคน วิธีใช้คือให้สครับด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำตาลนี้ในขณะที่ใบหน้ายังเปียกหมาดๆ จากนั้นนวดไปสักพัก ทิ้งไว้สัก 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น เท่านั้นหน้าก็จะเนียนและนุ่มนวลสุดๆ ราคาอยู่ที่กระปุกละ 7,700 วอน หรือประมาณ 240 บาทจ้ะ

62_1(6)

캡처ส

(source: theskinfood.co.kr)

2. Gold Caviar Toner : โทนเนอร์ปลาคาเวียร์ทองคำ โห อะไรจะอลังการเบอร์นั้น คุณภาพนางก็ดีจริงๆค่ะ ในตัวผลิตภัณฑ์มีแผ่นทองคำเล็กๆผสมอยู่เบาๆด้วย ใช้เช็ดผิวเหมือนโทนเนอร์ทั่วไปเลย แต่รู้สึกได้ว่าปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น ไม่ทิ้งให้ผิวแห้งแถมยังเพิ่มความชุ่มชื้น  สำหรับไลน์โกลด์คาเวียร์นี้ ดีเลิศแทบทุกอย่างจริงๆนะ ทั้งเซรั่ม อายครีม อิมัลชั่น ต้องลองไปดูค่ะ โทนเนอร์อยู่ที่ราคา 19,000 วอนหรือเกือบๆ 600 บาทค่ะ

캡처สกิน

캡처โทนเนอร์

(source: theskinfood.co.kr)

3. All Over Muffin Cake Finish No.5 : สุดยอดของผลิตภัณฑ์ไฮไลท์และบรอนเซอร์ที่ทำให้หน้าวาวฉ่ำเป็นสาวเกาหลีอย่างสมบูรณ์แบบ! สำหรับพี่คนนี้ บอกเลยว่า แนะนำมากถึงมากที่สุด จะต้องจัดไปให้ได้ เพราะนางเป็นไฮไลท์และบรอนเซอร์แบบแป้ง ชิมเมอร์ฟรุ้งฟริ้งได้ใจมาก หลังจากลงรองพื้น ปัดแก้ม ต้องจัดพี่คนนี้เพื่อเก็บงานจริงๆ ราคาก็เพียง 13,500 วอน (400 บาทโดยประมาณ)

PSF1312

Pony_Monolids_skinfoodfinish

(source: kbeautynow.com)

Untitled-1

มาต่อกันที่อีกหนึ่งแบรนด์ที่ฮิตไม่แพ้กัน “อินนิสฟรี” นั่นเองค่ะ ยอมรับเลยว่าแบรนด์นี้คุณภาพดีงามจริงๆ สาวๆเกาหลียกนิ้วให้ และนางก็มีหลายผลิตภัณฑ์ที่บอกได้เลยว่าแซ่บจริง จะเลือกมาแค่บางชิ้นยังยากเลย

1. No-Sebum Mineral Powder : ไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้จริงๆ กับแป้งฝุ่นคุมมันโปร่งแสงตัวนี้ นางสารพัดประโยชน์มาก ตั้งแต่ใช้ลงซับมัน เซ็ตเครื่องสำอาง ไปจนถึงเป็นอายไพร์มเมอร์ (ลงบนเปลือกตาก่อนแต่งอายแชโดว์) อีกทั้งใช้ซับความมันบนเส้นผมได้ด้วย เมื่อต้นเดือนที่เกาหลีก็ได้ออกแพกเกจสีสันสดใสมาเพื่อเป็นการฉลองครบรอบสิบปีของแบรนด์ เรียกได้ว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยทีเดียวค่ะ

448c36330223bf192150f7d08293c475

INNISFREE No sebum mineral powder-3

(source: innisfree.co.kr / ebay.com)

2. Eco Flower Tint : ทินท์สุดที่รักที่อยากจะแนะนำให้สาวๆไปลองดูมาก นางขึ้นชื่อว่าใช้แทนกันกับ Benefit Tint ได้ด้วย ส่วนตัวคิดว่าอันนี้ดีเลิศ สีงดงามมาก ใครชอบทาปากทินท์ๆไล่สีใสๆแบบเกาหลี ก็ลองไปดูกันได้นะ

Screen0405

imagepost-20150727-162710

innisfree2

(source: innisfree.co.kr / beautysnapshop.net / zauberschwalbe.de)

3. Long Wear Cushion : เป็นหนึ่งในคุชชั่นที่ดีงามพระรามแปด แนะนำมากตัวนี้ โดยเฉพาะสาวผิวมันทั้งหลาย คุชชั่นอันนี้จะให้งานผิวแมทค่ะ เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่ค่อยชอบความมันวาว แต่อันนี้แบบผิวสวยกริบ เชียร์แรงค่ะ!

PIF0094

캡처ด

(source: innisfree.co.kr / partsofqueenie.com)

04

มาถึงแบรนด์สุดท้ายที่อยากแนะนำให้กับสาวๆกันแล้ว นางคือ “เดอะเฟสช็อป” ที่มีสาวสวย Suzy แห่งวง Miss A เป็นพรีเซนเตอร์นั่นเองค่ะ แบรนด์นี้อาจจะไม่ป๊อปเท่ากับสามแบรนด์ที่แนะนำไว้ แต่ก็ยอมรับว่าคุณภาพนางไม่เบาอยู่

1. Ink Lipquid : เริ่มจากงานลิปอิงค์ ที่แบรนด์นี้ทำได้ดีมาก เรียกได้ว่าเป็นสินค้าขึ้นชื่อประจำยี่ห้อนี้เลยก็ว่าได้ สินค้าก็ตามชื่อเลยค่ะ เป็นเหมือนหมึกทาปาก ที่สีเน้นชัดมากกกกกก ติดทนนาน จะทาแบบไล่สีเก๋ๆ หรือจะทาแบบเต็มริมฝีปากเลยก็ได้นะ สีของนางก็มีเยอะเหลือเกิน ราคาอยู่ที่ 13,000 วอน (400กว่าบาท) ค่ะ

1-faceshop_13

캡처เฟส

캡처เฟสเฟส

(source: faceshop.com / ohfishiee.com)

2. Gelset Smudgeproof Auto Liner : เป็นอายไลน์เนอร์ในดวงใจ เรียกได้ว่าใช้แล้วไม่ผิดหวังเลย สีติดทนนาน ไม่แพนด้าค่ะ สาวๆที่มองหาอายไลน์เนอร์อยู่ น่าจะรับไปพิจารณา ราคาคุณพี่คนนี้อยู่ที่ 8,000วอน (240บาท)

theface_mt_063_light-500x500

캡처-eyeliner

mau-chi-ke-mat-gel-set

(source: thefaceshop.com / hoamyphamchinhhang.net) 

หวังว่าสาวๆจะชอบข้อมูลที่นำมาฝากกันนะคะ ใครที่จะไปช็อปปิ้งก็ขอให้เลือกสินค้าอย่างสนุกสนาน อย่าลืมเลือกประเภทและสีที่เหมาะกับตัวเองด้วยละ ใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลความงาม เข้ามาคุยกันได้ทางเฟสบุคแฟนเพจของบิวตี้ มีทส์  >> BEAUTYMEETS THAILAND กันได้นะจ๊ะ พบกันคราวหน้าค่ะ!

“เครื่องสำอางเกาหลี” แบรนด์ไหนมีอะไรดี? มาดูกัน!

[REVIEW] อายแชโดว์พาเล็ทน่ารักน่ากิน Too Faced Chocolate Bon Bons Palette

00

ฮาโหลว ♥ วันวาเลนไทน์ก็ใกล้เข้ามาทุกที สาวๆมีแผนจะอ้อนแฟนหรือจะซื้อของขวัญอะไรให้ตัวเองหรือเปล่า? นอกจากดอกไม้สวยๆสักช่อแล้ว เราแอบรู้นะว่าจริงๆแล้วอินเนอร์ชะนีทุกคนก็ต้องอยากได้เครื่องสำอางแซ่บๆ ไว้ใช้สักอันสองอัน เอาล่ะ! เตรียมตัวให้พร้อมเพราะรีวิวครั้งนี้จะตอบโจทย์อินเนอร์ชะนีที่สุด เพราะมันคือ eye palette ดีไซน์สุดคิ้วท์ ที่กำลังจะเข้ากับ Sephora Thailand ในวันพรุ่งนี้!! (เสาร์ที่ 13 ก.พ.)ต้อนรับวาเลนไทน์ นางก็คือ Too Faced Chocolate Bon Bons Palette นั่นเองค่า ♥ ♥ ♥

01

เริ่มจากกล่องเลย นึกว่าช็อคโกแล็ตจริงๆนะเนี่ย

02

คะแนนแพกเกจนี่ เต็มสิบให้ร้อยไปเลยค่ะ ♥ กล่องเป็นสีชมพูนมเย็นทำจากโลหะ พกพาสะดวก

03

เปิดมาก็จะพบกับความดีงามของชีวิต กรี๊ดหนักมากค่ะ มีกลิ่นช็อคโกแล็ตเบาๆ ด้วยนะ เพราะส่วนผสมของอายแชโดว์เขาใส่ผงโกโก้ด้วยซึ่งอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ (ยิ่งใหญ่อ่ะ)

อายแชโดว์มีทั้งหมด 16 สี

งั้นเรามาดูพาเล็ทตัวสีชัดๆกันเลย♥!

04

Almond Truffle, Satin Sheets, Cashew Chew, Cotton Candy, Cafe Au Lait, Dark Truffle, Pecan Praline, Totally Fetch

05

Sprinkles, Molasses Chip, Malted, Bordeaux, Mocha, Black Currant, Earl Grey, Divinity

เฉดสีเหมือนขนมจริงๆเลยเนอะ แถมชื่อก็น่ากินสุดๆ สีมีทั้งแมทและชิมเมอร์ผสมกันไป งั้นเรามาดู swatch เต็มๆ กันเลยค่ะ♥ 

06

“Almond Truffle” เป็นสีน้ำตาลกลางๆค่อนไปทางโทนเย็น อมชมพูนิดๆ เนื้อแมท นุ่ม ละเอียด เกลี่ยง่าย เนื้อสีแน่นและชัดมาก เหมาะสำหรับการคัดเบ้าเพิ่มมิติให้กับเปลือกตา

07

“Satin Sheets” เป็นสีชมพูอ่อนอมเบจ สว่าง สีโทนอุ่น มีประกายทองที่ชัดเจน เนื้อเกลี่ยง่ายและสีชัดมาก เหมาะสำหรับไฮไลท์โหนกคิ้วและลงบริเวณหัวตา

08

“Sprinkles” เป็นสีชมพูอมพีช มีชิมเมอร์สีทองด้วย เบลนด์ง่าย สีหวาน ทาแค่สีเดียวก็อยู่เลยนะ เหมาะกับลุควันเบาๆ ไม่ต้องจัดหนักมาก

09

“Molasses Chip” เป็นสีน้ำตาลบรอนซ์ประกายทองแบบจัดเต็ม สีสวยดีงามมาก ใช้แค่สีเดียวหรือเอาไว้โบกสีร่วมกับสโมคกี้อายก็ได้นะ

10

“Malted” เป็นน้ำตาลช็อกโกแล็ต เนื้อเกือบแมท เบลนด์ง่าย ไม่เป็นผงหรือแข็งจนเกินไป

 11

“Cashew Chew” แทบจะไม่เห็นเลยเนอะ ฮ่าๆๆ เป็นสีชมพูอมพีชอ่อน มีชิมเมอร์เนื้อซาติน เหมาะสำหรับเบลนด์เกลี่ยให้สโมคกี้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ผงค่อนข้างละเอียด เวลาใช้ควรลงไพร์มเมอร์ก่อนด้วย

12

“Cotton Candy” เป็นสีที่ตอบโจทย์พาเล็ทชุดนี้สุดเลย ชมพูอ่อนเหมือนสายไหม/หมากฝรั่ง มีชิมเมอร์วิบวับเหลือบสีฟ้า เป็นอีกหนึ่งสีที่น่าเล่นมากๆ

13

“Cafe Au Lait” หู้ย เป็นสีที่ดีงามพระรามแปดอีกแล้ว ถึงจะดูไม่ค่อยเข้ากับชื่อที่ว่ากาแฟใส่นมก็เถอะ แต่เป็นสีน้ำตาลที่มีชิมเมอร์เงินๆ กึ่งแชมเปญนิดๆ เนื้อสีแน่นดีมาก สามารถลงบนเปลือกตาได้เลย ติดทนนานด้วย

14

“Bordeaux” เป็นสีแดงเข้มเบอร์กันดี้ เนื้อแมท เบลนด์ง่าย เอาไว้เล่นสโมคกี้อายสวยๆค่ะ

15

“Mocha” เป็นสีน้ำตาลอ่อนโทนอุ่น เนื้อแมท เบลนด์ง่าย

16

“Black Currant” เป็นสีม่วงพลัมโทนอุ่น ประกายชิมเมอร์ด้วย แต่เนื้อถือว่าแห้งที่สุดในพาเล็ท จะเบลนด์ให้สวยต้องเกลี่ยผสมด้วยสี Almond Truffle

17

“Dark Truffle” เป็นสีน้ำตาลเข้ม เข้มมากกกก เกลี่ยง่าย มีเนื้อมุกผสมด้วยพอสมควรค่ะ

 18

“Pecan Praline” สีนี้ชื่ออ่านยากจัง “พีแคน เพรลีน” เป็นน้ำตาลอ่อน เนื้อแมท สีอาจจะไม่ค่อยชัดมาก ต้องลงไพร์มเมอร์บนเปลือกตาก่อน เหมาะกับใช้คัดเบ้าหรือเบลนด์มากกว่าค่ะ

19

“Totally Fetch” เป็นสีชมพูอมม่วงฟุชเชีย สว่าง มีประกายชิมเมอร์ เนื้อสีแน่นสุดๆ

20

“Earl Grey” ถ้าฟังแค่ชื่ออาจจะคิดว่าน่าจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆเหมือนชาเอิร์ลเกรย์ แต่จริงๆ เป็นสีน้ำเงินเข้มเกือบดำ มีประกายด้วย แต่ว่าเนื้อแห้งมาก ต้องลงไพร์มเมอร์ก่อนแรงๆ ใช้ทำสโมคกี้ดูสวยมาก

21

“Divinity” เป็นสีเบจอมชมพูอ่อน เกลี่ยง่าย เนื้อแมทสุดๆ สีอาจจะไม่ชัดมาก แต่ใช้เป็นเบสได้ดี

เทียบสีให้ชัดๆ กันไปเลย ♥

22

23

24

เป็นไงกันบ้างคะ กรี๊ดสลบเลยล่ะซี่ ฮ่าๆๆ อย่าลืมไปดูกันได้ที่ SEPHORA Thailand วันพรุ่งนี้แล้วนะจ๊ะ ราคาอยู่ที่ 2,790 บาทค่ะ

ถ้าใครอยากดูรีวิวแบบคลิปก็ คลิ๊กเลย!

special thanks to: xsparkage, temptalia, perilouslypale 🙂

อย่าลืมติดตามบิวตี้ มีทส์ ไทยแลนด์ เพื่ออัพเดทเทรนด์ความงาม แฟชั่น รีวิวเครื่องสำอาง และวิธีการแต่งหน้าได้ทางเฟสบุคแฟนเพจ BEAUTYMEETS THAILAND นะจ๊ะ ♥

แล้วพบกันใหม่นะคะสาวๆ

xoxo, beautymeets

[REVIEW] อายแชโดว์พาเล็ทน่ารักน่ากิน Too Faced Chocolate Bon Bons Palette